ทำไม Nintendo ถึงวางตัวในสงครามเกมคอนโซลปัจจุบันได้ดีมาก

ปฏิเสธไม่ได้ว่า Nintendo เป็นหนึ่งในบริษัทเกมสายคอนโซลชั้นนำที่ทุกคนต้องนึกถึงเป็นชื่อแรก ๆ รวมถึงเป็นหนึ่งในบริษัทญี่ปุ่น ที่ผู้คนต่างให้ความสำคัญและนึกถึงโดยเฉพาะบริษัทที่เกี่ยวกับเกม นอกจากนี้ Nintendo ยังขึ้นชื่อในเรื่อง Soft Power ด้านเกมและสื่อที่ทรงพลังของประเทศเกาะญี่ปุ่นอีกด้วย อิทธิพลของ Nintendo นั้นเห็นได้จากตอนเปิดตัวงานโอลิมปิกครั้งต่อไปที่เมืองริโอ เดอ จาเนโร ปี ค.ศ. 2016 ซึ่งเจ้าภาพในการจัดงานโอลิมปิกครั้งถัดไปคือญี่ปุ่นซึ่งจัดในปี ค.ศ. 2020 โดยงานเปิดตัวนี้ทางประธานาธิบดี อาเบะ ชินโซะ ของญี่ปุ่นเองก็ได้สวมหมวดแดงของตัวละคร Mario สร้างจุดขายงานนี้ในการรับลูกบอลแดงเพื่อเป็นการส่งต่อความเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันโอลิมปิกครั้งถัดไป

ในวันนี้เรามาสำรวจกันครับว่าอะไรที่ทำให้ Nintendo วางตัวในสงครามเครื่องเกมคอนโซลได้ดีกว่า Microsoft Xbox และ PlayStation ของ Sony กัน

เบื้องต้นทาง Wall Street Journal ได้นำเสนอ 2 ประเด็นที่น่าสนใจที่ทำให้คนสายเกมและนักลงทุนต่างเห็นตรงกัน นั่นคือ 1) Nintendo เป็นบริษัทที่เน้นด้านเกมมากว่าคู่แข่งรายใหญ่อย่าง Sony หรือแม้แต่ Microsoft Xbox ก็ตาม โดย Sony มีธุรกิจเกี่ยวกับเกมอยู่ที่ประมาณ 28.63% ที่เหลือจะเป็นภาคธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ภาพถ่าย(กล้อง เซนเซอร์) กลุ่มการเงิน หนัง/ดนตรี เป็นต้น ส่วน Microsoft นั้นธุรกิจหมวดเกมมีสัดส่วนเพียง 8% แต่เพียงเท่านั้น (ส่วนอื่น ๆ จะเป็นซอฟต์แวร์และหมวดคลาวด์)

ดังนั้นการที่ทรัพยากรของ Nintendo จึงทุ่มไปที่ธุรกิจหมวดเกมแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยทุกสรรพกำลังได้ เข้าถึงรายละเอียดได้ดีกว่าสองค่ายสองเครื่องเกม

2) เรื่องพลังด้าน IP ของทาง Nintendo ที่ติดตลาดได้ดีกว่าทาง Xbox และ Sony หากให้คนทั่วไปนึกถึงตัวละครประจำค่ายของ Xbox หรือแม้แต่ Sony เอง คนอาจจะนึกไม่ค่อยออกนัก แต่ถ้าเป็นบริษัท Nintendo แล้ว คนทั่วไปจะนึกถึงชื่อของ Mario, Pikachu ออกมาเป็นตัวเลือกแรก ๆ โดยพลังของ IP และการรับรู้ในมุมกว้างนี้ ได้เปิดโอกาสให้ทาง Nintendo สามารถเข้าสู่น่านน้ำอื่น ๆ ในการหารายได้เข้าบริษัทได้ ไม่ว่าจะเป็นการให้สิทธิตัวละครในการออกผลิตคอลแลปกับสินค้าต่าง ๆ ได้ หรือแม้แต่การทำภาพยนตร์เองก็ไม่ใช่เป็นหาเช่นกัน

โดยหมุดหมายหนึ่งที่เป็นที่ประจักษ์สายตาแล้วคือภาพยนต์ The Super Mario Bros. Movie (2023) ในตอนที่เขียนบทความอยู่ก็สามารถทำรายได้ไปมากกว่า 1,300 ล้านเหรียญเป็นที่เรียบร้อยแล้วและเป็นหนังจากเกมที่ทำรายได้สูงที่สุดในปัจจุบัน ทิ้งห่างจากหนังจากเกมอันดับ 2 อย่าง Warcraft ที่กราดรายได้ไปที่ 439 ล้านเหรียญ ห่างกับ Mario ไปเกือบสามเท่าตัว

นับว่าจุดแข็ง 2 ข้อหลักนี้อย่างการโฟกัสเงินลงทุนไปที่ธุรกิจเกมล้วน ๆ และการมี IP ที่แข็งแกร่งเข้าถึงหัวใจของคนทุกเพศทุกวัยนี้เป็นส่วนผสมอันแข็งแกร่งที่ทำให้ Nintendo เป็นที่รักของแฟนเกมเดนตาย และนักลงทุนสายเกมอย่างแท้จริง