ย่านสำเพ็ง ประวัติศาสตร์พื้นที่ธุรกิจขนาดใหญ่ใจกลางกรุง

ตลาดสําเพ็ง ตั้งอยู่ที่ ถนนมังกรติดกับถนนผลิตผล ใกล้เยาวราช และถนนวานิช ซึ่งต่อเนื่องไปถึงพาหุรัดได้ สินค้าที่ขายในสำเพ็งส่วนใหญ่เป็นสินค้ากิฟต์ชอป ตุ๊กตา ของเล่น เครื่องเขียน เครื่องประดับ กิ๊บติดผม กระเป๋า รองเท้า อุปกรณ์ของใช้ในบ้าน ดอกไม้ปลอม อาหารแห้ง ที่มีน้อยจะเป็นพวกเสื้อผ้าซึ่งมีร้านไม่มากเท่าไรนัก โดยฝั่งเยาวราชจะมีกิฟต์ชอป เครื่องเขียน ตุ๊กตาและรองเท้าขายอยู่มาก ส่วนอีกฝั่งที่อยู่ติดกับพาหุรัดจะเน้นขายผ้าเป็นหลัก

การเดินทางไปสำเพ็งสามารถนั่ง MRT มาลงสถานีวัดมังกร โดยเดินออกทางออก 1 แล้วเดินอีกประมาณ 500 เมตรผ่านเยาวราชเพื่อเข้าสู่สำเพ็ง หรือสามารถเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางสาย 4, 7, 21, 37, 40, 56 ,73, 529 ลงที่ถนนจักรวรรดิ หรือ สาย 204 ลงที่ถนนราชวงศ์

ต้นกำเนิดของ “สำเพ็ง” เริ่มต้นขึ้นเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงปราบดาภิเษกและขึ้นครองราชย์ เมื่อ พ.ศ. 2325 ทรงมีพระราชดำริให้ข้ามมาสร้างพระนครใหม่ทางคุ้งแม่น้ำเจ้าพระยาฟากตะวันออก แต่บริเวณที่โปรดฯ ให้สร้างพระบรมมหาราชวังเป็นที่อยู่ของพระยาราชาเศรษฐี และชาวจีนจำนวนหนึ่ง

หลังจากนั้นจึงโปรดให้ย้ายไปอยู่ที่สวนบริเวณวัดสามปลื้ม ไปจนถึงคลองวัดสามเพ็ง ซึ่งมีข้อความระบุถึงวัดชื่อ “สามเพ็ง” ในพระราชพงศาวดารฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ว่า “ให้พระยาราชาเศรษฐี และพวกจีนย้ายไปตั้งบ้านเรือนอยู่ ณ ที่สวนตั้งแต่คลองวัดสามปลื้มไปจนถึงคลองวัดสามเพ็ง…”

สำหรับชื่อ “สำเพ็ง” มีหลายข้อสันนิษฐานถึงที่มาของชื่อนี้ บุบผา เชื่อว่า เป็นชื่อที่เพี้ยนมาจากคำว่า “สามเพ็ง” ซึ่งเป็นชื่อวัดและชื่อคลองที่อยู่ละแวกนั้น คนจีนในย่านเดียวกันชินกับการออกเสียงสั้น จึงทำให้จาก “สามเพ็ง” กลายเป็น “สำเพ็ง” ในทุกวันนี้

ตอนนี้ย่านสำเพ็งเปลี่ยนแปลงปรับตัวไปอย่างไรบ้างจากในอดีต

สำเพ็งในปัจจุบันนี้เงียบเหงากว่าเดิมที่เคยเป็น ด้วยเหตุปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบรวมกัน ทั้งสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด19 การปิดประเทศที่เพิ่งคลี่คลาย หรือสภาพเศรษฐกิจที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ ทำให้กำลังซื้อของคนจับจ่ายใช้สอยลดน้อยลง รวมทั้งผู้ประกอบการรายย่อยจำนวนมากที่ไม่สามารถประคองธุรกิจให้เติบโตต่อไปได้

อีกเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่ง คือพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ที่หันไปใช้บริการร้านค้าออนไลน์กันมากขึ้น เพราะนอกจากจะสะดวกสบายในการเลือกซื้อแล้ว ยังมีบริการส่งถึงที่ ทำให้ปัจจุบันร้านค้าหลาย ๆ ร้านได้มีการปรับตัวเปิดหน้าร้านออนไลน์กันมากขึ้น แต่ก็ยังมีผู้ค้าอีกหลาย ๆ กลุ่มที่ไม่สามารถเปิดหน้าร้านออนไลน์ได้

ต้องจับตาดูกันต่อไปว่าเจ้าของธุรกิจในย่านการค้าขนาดใหญ่แห่งนี้จะปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลงอย่างไร