Snow White ยอดฉายแย่ กระทบ Disney แค่ไหน

ในปี ค.ศ. 1937 เรื่องราวของสโนว์ไวท์และคนแคระทั้งเจ็ดได้โลดแล่นในฉบับแอนิเมชันจากการสร้างของดิสนีย์ และนับเป็นนิทานคลาสสิคที่ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล อย่างไรก็ตาม ในปี ค.ศ. 2025 เมื่อดิสนีย์ได้ผลิตผลงานสโนว์ไวท์ฉบับคนแสดงออกฉาย ท่ามกลางกระแสวัฒนธรรมการตื่นรู้ และปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ยอดฉายของสโนว์ไวท์กลับไม่ประสบความสำเร็จอย่างรุนแรง ในที่นี้ ลงทุนศาสตร์ขอพาท่านผู้อ่านไปสำรวจสาเหตุที่ทำให้สโนว์ไวท์ฉบับคนแสดงไม่ประสบความสำเร็จ และผลกระทบต่อบริษัทผู้สร้างอย่าง ดิสนีย์ ดังต่อไปนี้ [1, 2, 3, 4]

สาเหตุหลักที่ทำให้สโนว์ไวท์ไม่ประสบความสำเร็จ คือปัญหาในการเลือกนักแสดงนำ ทางค่ายดิสนีย์เลือก Rachel Zegler นักแสดงหญิงชาวอเมริกันเชื้อสายโคลอมเบียให้รับบทสโนว์ไวท์ ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม หลังจากนั้น Rachel ยังแสดงความเห็นทางการเมืองในหลายประเด็น เช่น การแสดงความไม่พอใจผู้สนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ การเลือกสนับสนุนปาเลสไตน์ ในขณะที่นักแสดงผู้รับบทแม่มด Gal Gadot แสดงจุดยืนสนับสนุนอิสราเอล

การแสดงออกถึงความคิดเห็นทางการเมืองของนักแสดง ส่งผลกระทบต่อผู้ชมที่มีความคิดเห็นทางการเมืองไม่ตรงกันอย่างยากจะหลีกเลี่ยง นอกจากนี้ สโนว์ไวท์ฉบับคนแสดงยังถูกตั้งคำถามถึงความเหมาะสมในหลายประเด็น เช่น การนำเสนอบทคนแคระทั้งเจ็ดด้วย CG ปัญหาทั้งหลายส่งผลให้สโนว์ไวท์ฉบับคนแสดงถูกถล่มด้วยความเห็นเกลียดชัง และกดคะแนนรีวิวภาพยนต์ใน IMDB จนต่ำลงอย่างไม่เป็นธรรม

กระแสเชิงลบจากเรื่องสโนว์ไวท์ฉบับคนแสดงส่งผลกระทบโดยตรงต่อดิสนีย์ ปัจจุบันนี้ สโนว์ไวท์ทำรายได้จากยอดฉายทั่วโลกมากกว่า 225 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และรายได้ระดับประเทศอีกประมาณ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับว่าน้อยยิ่งกว่าเรื่องดัมโบ้ฉบับคนแสดงในปี ค.ศ. 2019 ที่มีรายได้ระดับประเทศอยู่ที่ 115 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หากดิสนีย์ไม่สามารถกอบกู้สถานการณ์ได้ บริษัทอาจต้องขาดทุนมากกว่า 115 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากงบประมาณในการสร้างภาพยนตร์ การลงทุนโปรโมทโฆษณาและการจัดทำแคมเปญที่เกี่ยวข้องใช้จำนวนเงินไปแล้วมากกว่า 410 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

หากต้องการคืนทุนให้อยู่ในจุดที่พอไปต่อได้ สโนว์ไวท์ฉบับคนแสดงควรทำรายได้ให้บริษัทประมาณ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขึ้นไป จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ดิสนีย์ยังพอมีหนทางแก้เกมด้วยการกระตุ้นยอดขายจากการขายสินค้าลิขสิทธิ์ บริการสตรีมมิ่งในดิสนีย์พลัส แต่กระแสความนิยมที่ติดลบต่อเนื่องทำให้ยากต่อการเรียกคืนความนิยมกลับมา ยิ่งไปกว่านั้น ดิสนีย์ยังต้องเผชิญกับกระแสต่อต้านจากทั้งฝั่งผู้ที่สนับสนุนการตื่นรู้ และต้องการเรียกร้องให้ทางค่ายนำเสนอเนื้อหาที่ลดการแบ่งแยกหรือแสดงอคติทางเชื้อชาติมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการโจมตีจากฝั่งอนุรักษ์นิยมที่ต้องการรักษาอัตลักษณ์ดั้งเดิมของบทประพันธ์ ประเด็นเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงวิกฤตการนำเสนอตัวตนของดิสนีย์ที่ไม่ชัดเจนว่าต้องการสะท้อนวัฒนธรรมตื่นรู้ร่วมกับฝ่ายเสรีนิยม หรือยังคงมีจุดยืนอยู่เคียงข้างฝ่ายอนุรักษ์นิยม

ความท้าทายในการเผชิญปัญหาเหล่านี้เป็นเกมระยะยาวที่ดิสนีย์ต้องหาทางรับมือ และวางแผนเพื่อไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้นซ้ำต่อไป ต่อจากนี้ไป เราคงได้แต่คอยจับตาดูกันต่อไปว่า สโนว์ไวท์ฉบับคนแสดงจะสามารถพลิกสถานการณ์ขึ้นมาได้หรือไม่ และดิสนีย์จะหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว และอาจเกิดขึ้นต่อไปเช่นไรในอนาคต

ลงทุนศาสตร์ – Investerest

ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , และ WEBSITE

อ้างอิง
[1] James, C. (March 15, 2025). Will Snow White be a ‘victim of its moment’? How the Disney remake became 2025’s most divisive film. Retrieved from https://www.bbc.com/culture/article/20250314-how-the-disney-remake-became-2025s-most-divisive-film-snow-white
[2] Waxman, O. B. (March 20, 2025). Why Disney’s Snow White Remake Is Creating Controversy. Retrieved from https://time.com/7267440/snow-white-disney-rachel-zegler-gal-gadot/#
[3] Fang, S. (April 5, 2025). IMDb Issues Rare Warning Following Wave of Controversial Snow White Reviews. Retrieved from https://www.cbr.com/snow-white-imdb-warning
[4] Basu, D. (April 2, 2025). Snow White Flop: How Much Money Did Disney Lose?. Retrieved from https://finance.yahoo.com/news/snow-white-flop-much-money-075548439.html