รู้จัก Solopreneurship กับการทำธุรกิจแบบคนเดียว

Solopreneur เกิดจากการผสมผสานจากคำสองคำคือ Solo ที่แปลว่าคนเดียวหรือเดี่ยว ๆ กับคำว่า Entrepreneur นั่นเอง ช่วงหลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้เกิดวิถี New Normal ซึ่งนั่นทำให้รูปแบบของการทำงานและการใช้ชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไปอย่างมาก Solopreneurship ก็อาจเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงนั้นด้วยเช่นกัน โดยจากการสำรวจของ Global Entrepreneurship Monitor (GEM) ได้ทำการประเมินอัตราของ one-person business ในระหว่างปี ค.ศ. 2019-ค.ศ. 2022 พบว่ามีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้นในหลายประเทศ

solopreneur อาจจะเป็นได้ทั้งคนที่ประกอบอาชีพอิสระ บล็อกเกอร์ เจ้าของร้านค้าอีคอมเมิร์ซ ยูทูปเบอร์ กราฟิกดีไซนเนอร์ ช่างแต่งหน้า ช่างทำผมหรือแม้แต่เชฟทำงขนม Solopreneur ต่างจาก Entrepreneur ตรงที่ Solopreneur คือการดำเนินการธุรกิจโดยคนเพียงคนเดียว ซึ่งหมายความว่าพวกเขารับผิดชอบทุกด้านของการทำธุรกิจ เริ่มตั้งแต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การเงิน การตลาดไปจนถึงการบริการลูกค้า ในทางกลับกัน Entrepreneur คือการดำเนินการธุรกิจโดยทีมที่ประกอบไปด้วยคนหลายคน ซึ่งอาจหมายความรวมถึงการจ้างพนักงานเพื่อทำงานในแผนกต่าง ๆ ของบริษัทด้วยนั่นเอง

ข้อดี 6 ข้อ ของการเป็น Solopreneur คือ

ข้อที่หนึ่ง มีความยืดหยุ่นสุง ในฐานะของ solopreneur เท่ากับว่าคุณเป็นเจ้านายของตัวคุณเอง ดังนั้นคุณจึงมีอิสระและความยืดหยุ่นในการทำงาน คุณสามารถออกแบบรูปแบบการทำงานได้เองโดยไม่จำเป็นต้องยึดติดกับกรอบเวลา อย่างการเป็นลูกจ้างหรือการทำงานประจำ ซึ่งเหตุผลของการกำหนดชั่วโมงงานที่ไม่ตายตัวนี้เอง ที่เป็นเหตุผลให้ใครหลายคนเลือกที่จะเป็น solopreneur

ข้อดีข้อถัดมา สร้างความพึงพอใจในการทำงาน Solopreneur มีอิสระในการเลือกทำในงานที่ตัวเองชอบหรือพอใจ ดังนั้น Solopreneur จึงมีโอกาสที่จะพึงพอใจกับงานที่ทำมากกว่านั่นเอง

ข้อที่สาม สามารถควบคุมกลยุทธ์และการตัดสินใจทางธุรกิจได้ด้วยตนเอง ทำให้มีอิสระในการตัดสินใจและอิสระในการสร้างสรรค์ธุรกิจของตน

ข้อที่สี่ ความเป็นอิสระของสถานที่ทำงาน : เมื่อการดำเนินธุรกิจสามารถทำได้ด้วยตัวคุณเองเพียงคนเดียว มันจึงง่ายมากที่จะสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้ โดยเฉพาะคนที่ทำงานออนไลน์ ซึ่งทำให้เราพบเจอกับเหล่า Digital nomads อยู่บ่อยครั้งตามแหล่งท่องเที่ยวหรือเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก

ข้อที่ห้า การได้รับรายได้ที่เหมาะสม solopreneur สามารถสร้างฐานรายได้ที่สูงขึ้นได้ตามคุณค่าของงาน ซึ่งต่างจากการเป็นพนักงานประจำที่อาจมีฐานเงินเดือนและการปรับเพิ่มเงินที่เป็นไปตามกฎเกณฑ์ของบริษัทนั้น ๆ แต่สำหรับ solopreneur เมื่อคุณาสมารถสร้างสินค้าหรือบริการที่มีคุณค่าหรือมีประสิทธิภาพสูง คุณก็สามารถสร้างรายได้ที่สูงตามไปด้วยได้ แน่นอนว่ามันอาจจะยากสำหรับการเริ่มต้นในครั้งแรก และไม่ใช่ทุกคนที่ประสบความสำเร็จ แต่การทำธุรกิจแบบนี้ก็ยังมีช่องว่างและโอกาสให้คุณเข้าไปลงเล่นได้

ข้อดีข้อที่หก การได้สร้างทักษะใหม่ ๆ เมื่อคุณต้องบริหารธุรกิจทั้งหมดด้วยตัวคนเดียว นั่นหมายถึงคุณจะต้องมีความรู้ความเข้าใจการทำธุรกิจในทุกด้าน ไม่เฉพาะแค่ในเรื่องที่คุณถนัดหรือเชี่ยวชาญ คุณอาจจะต้องศึกษาเรื่องระบบการเงิน การตลาด หรือแม้กระทั่งการสื่อสารเพื่อนำเสนอลูกค้า นอกไปจากนี้คุณจะต้องพบเจอกับปัญหาอยู่เสมอ ทำให้ต้อง reskilling และ upskilling อย่างต่อเนื่อง เมื่อคุณทำซ้ำไปเรื่อย ๆ ทุกอย่างจะกลายเป็นธรรมชาติของคุณเองในการแก้ปัญหาใหม่ ๆ