ไวน์กับการลงทุน การลงทุนในทางเลือกชั้นเยี่ยมกับไวน์ชั้นยอด

การลงทุนทางเลือก (Alternative investments) โดดเด่นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาโดยได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนของการแพร่ระบาด COVID-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้างและสินทรัพย์แบบดั้งเดิมอย่างหุ้นและพันธบัตร จากการสํารวจเหล่านักลงทุนล่าสุดของ Goldman Sachs รายงานว่ากว่า 60% ของผู้ตอบแบบสอบถามวางแผนที่จะเพิ่มการจัดสรรสินทรัพย์ส่วนตัวซึ่งอาจรวมถึงการลงทุนทางเลือกเช่นไวน์

ไวน์ชั้นดี (Fine Wine) ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในทางเลือกของการกระจายพอร์ตการลงทุน เพราะมูลค่าของไวน์ไม่ได้เชื่อมโยงกับปัจจัยทางเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ย หรือตัวชี้วัดแบบดั้งเดิมอื่น ๆ แต่ขึ้นกับปัจจัยอย่างสภาพอากาศ ผลผลิต การเก็บเกี่ยว แนวโน้มความนิยมและการบริโภค ซึ่งโดยรวมทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตลาดหุ้น การลงทุนไวน์จึงสามารถเสริมพอร์ตการลงทุนแบบดั้งเดิมได้

โดยทั่วไปไวน์ชั้นดีจะให้ผลตอบแทนประมาณ 9 ถึง 10% ต่อปี แต่อย่างไรก็ตามไวน์แต่ละยี่ห้อก็มีผลตอบแทนที่แตกต่างกันไปแม้จะวัดจากช่วงระยะเวลาเดียวกัน ยกตัวอย่างจากฐานข้อมูลของ Cult Wine พบว่าไวน์ Emidio Pepe Montepulciano d’Abruzzo จากอิตาลีได้รับผลตอบแทน 78% ในขณะที่ Chateau Rayas จาก Chateauneuf de Pape ในภูมิภาค Rhone ของฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 198% ในช่วงระยะเวลา 3 ปี

ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาตลาดไวน์สามารถเข้าถึงได้มากขึ้น มีการจัดตั้ง London Vintners Exchange (Liv-ex) ซึ่งเป็นตลาดสำหรับการซื้อขายไวน์ระดับโลก ที่มีสมาชิกมากกว่า 500 ราย มีการจัดทำดัชนีไวน์ซึ่งนําไปสู่การกำหนดราคาและข้อมูลที่มีความโปร่งใสมากขึ้น อย่างไรก็ตามเนื่องจากการซื้อขายโดยตรงบน Liv-ex มีไว้สำหรับนักค้าไวน์มืออาชีพเท่านั้น ทำให้นักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่เลือกที่จะซื้อไวน์ผ่านผู้จัดจำหน่ายโดยตรง หรือผ่านการประมูลและตลาดรองจากผู้ค้าปลีก

ดัชนี Liv-ex Fine Wine 100 เป็นดัชนี 100 ไวน์ชั้นดีที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดทั่วโลก โดย ณ วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2022 ให้ผลตอบแทนรวม 1 ปี ที่ 22.2% ซึ่งในภาพรวมถือว่าดีกว่าตลาดอื่นๆในขณะนั้นเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเมื่อเทียบในช่วงเวลาเดียวกันพบว่าดัชนี S&P 500 มีผลตอบแทนรวม 1 ปี อยู่ที่ -5%

นักลงทุนไวน์สามารถเลือกวิธีการลงทุนได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อไวน์แบบขวด (physical wine) ซึ่งวิธีนี้ผู้ลงทุนจะต้องทำการศึกษาเทคนิคการจัดเก็บ การจัดการที่เหมาะสม การประกันภัยและข้อควรพิจารณาอื่น ๆ ที่สำคัญ หรือจะเป็นการเปิดพอร์ตลงทุนไวน์อย่างหุ้นและกองทุนไวน์ซึ่งในกรณีนี้นักลงทุนจำเป็นจะต้องมีบัญชีเทรดหุ้นในต่างประเทศ

ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มการลงทุนไวน์ที่อนุญาตให้นักลงทุนทั่วไปมีส่วนร่วมในสินทรัพย์ประเภทนี้อยู่หลายแพลตฟอร์ม เช่น

-Vinovest: แพลตฟอร์มการซื้อขายหุ้นไวน์ที่นักลงทุนสามารถเปิดบัญชีฝากเงิน พร้อมกับเริ่มลงทุนได้ในไม่กี่นาที มีสามระดับสำหรับการลงทุนคือ Standard, Premium และ Grand Cru โดยผู้ลงทุนต้องมียอดฝากขั้นต่ำ$1,000, $50,000 และ $250,000 ตามลำดับ และมีค่าธรรมเนียมรายปี

-Vint: แพลตฟอร์มที่เสนอหุ้นไวน์ที่ดีที่สุดในโลกโดยผ่านการรับรองจาก SEC มีขั้นต่ำในการลงทุนเพียง 25 เหรียญดอลลาห์สหรัฐและไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี

-Cult Wine Investment: มีตัวเลือกรูปแบบการลงทุนหลายระดับตามความต้องการของนักลงทุน โดยเริ่มต้นที่ขั้นต่ำ 10,000 ดอลลาห์สหรัฐ ส่วนพอร์ตการลงทุนตั้งแต่ 35,000 ดอลลาห์สหรัฐเป็นต้นไปนักลงทุนจะได้รับประโยชน์แบบเต็มรูปแบบผ่านผู้จัดการพอร์ตโดยเฉพาะ