ธุรกิจ

สรุปข้อมูลบริษัท MasterCard : MasterCard หุ้น 70 เด้ง ใน 10 ปี

สรุปข้อมูลบริษัท MasterCard

สรุปข้อมูลบริษัท MasterCard : MasterCard หุ้น 70 เด้ง ใน 10 ปี

 

เมื่อนึกถึงแบรนด์บัตรเครดิต ก็ต้องนึกถึงสองบริษัทยักษ์ใหญ่ที่หลาย ๆ คนรู้จักกันดี นั่นคือ VISA และ MasterCard

 

สิ่งที่เหมือนกันของทั้งสองบริษัทก็คือ ทำธุรกิจคล้ายกัน เริ่มต้นในเวลาไล่เลี่ยกัน จดทะเบียนในตลาดหุ้นใกล้ ๆ กัน และที่เหมือนกันอีกอย่างก็คือ ทั้งสองบริษัทนี้จริง ๆ แล้วไม่ได้ทำธุรกิจบัตรเครดิต แต่ทำธุรกิจแพลตฟอร์มธุรกรรมทางการเงิน และมีรายได้หลักมาจากการประมวลผลธุรกรรมที่เกิดขึ้นทั่วโลก เงินทุกบาทที่จ่ายผ่านบัตรที่มีโลโก้ของ VISA และ MasterCard จะต้องมีส่วนหนึ่งที่ถูกเปลี่ยนไปเป็นรายได้ของทั้งสองบริษัทเสมอ

 

แต่สิ่งที่ต่างกันก็คือ ในขณะที่หุ้นของ VISA เติบโตขึ้นกว่า 10 เท่าในระยะเวลา 10 ปี หุ้นของ MasterCard กลับเพิ่มขึ้นไปถึง 70 เท่าในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน

 

 

 

MasterCard เป็นบริษัทแพลตฟอร์มรับชำระเงิน ที่เป็นเหมือนคู่แข่งโดยตรงของ VISA

 

MasterCard นั้นถือกำเนิดขึ้นมาหลัง VISA ไม่นานนัก โดยเป็นความร่วมมือกับธนาคาร Well Fargo, United California Bank, Crocker National Bank และ Bank of California ที่ต้องการเชื่อมระบบการรับชำระเงินให้มีความสะดวกมากขึ้น

 

MasterCard อาจจะมาทีหลัง VISA แต่บริษัทก็สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วไม่แพ้กันจนมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 16% ในขณะที่ VISA มีส่วนแบ่งตลาด 21% และยังเป็นบริษัทแรกที่เข้าไปทำระบบการรับชำระเงินในประเทศจีนด้วย ก่อนจะผันตัวเองมาเป็นบริษัทมหาชนเมื่อปี 2006

 

และรู้หรือไม่ว่า ถึงแม้ MasterCard จะมีส่วนแบ่งตลาดที่เป็นรอง VISA (MasterCard มีส่วนแบ่งตลาด 16% ในขณะที่ VISA มีส่วนแบ่งตลาด 21%) แต่ราคาหุ้นกลับพุ่งขึ้นไปได้สูงถึง 70 เท่านับตั้งแต่วันที่เข้าตลาด ในขณะที่หุ้น VISA ปรับตัวเพิ่มขึ้นราว ๆ 10 เท่า เห็นได้ชัดว่านักลงทุนให้มูลค่ากับหุ้นของ MasterCard ไม่น้อยเลย

 

 

 

งบการเงินหุ้น MasterCard

 

ปี 2017
รายได้ 12,497 ล้านเหรียญ
ค่าใช้จ่าย 8,582 ล้านเหรียญ
กำไรสุทธิ 3,915 ล้านเหรียญ

 

ปี 2018
รายได้ 14,950 ล้านเหรียญ
ค่าใช้จ่าย 9,091 ล้านเหรียญ
กำไรสุทธิ 5,859 ล้านเหรียญ

 

12 เดือนล่าสุด
รายได้ 16,883 ล้านเหรียญ
ค่าใช้จ่าย 8,765 ล้านเหรียญ
กำไรสุทธิ 8,118 ล้านเหรียญ

 

 

 

เฉกเช่นเดียวกับบริษัทคู่แข่ง MasterCard เองก็มีโครงสร้างรายได้ที่มาจากสามส่วนหลัก ๆ คือ ค่าธุรกรรมภายในประเทศ ค่าธรรมเนียมธุรกรรมระหว่างประเทศ และค่าธรรมเนียมในการประมวลผลธุรกรรม โดยรายได้จากทั้งสามส่วนนี้คิดเป็นรายได้กว่า 80% ของรายได้รวม แต่นอกจากนั้นแล้ว MasterCard ยังมีรายได้อื่น ๆ ที่มาจากธุรกิจอย่างเช่นการวิเคราะห์ข้อมูลหรือธุรกิจป้องกันการฉ้อโกงด้วย

 

ด้วยความที่ MasterCard มีโครงสร้างทางธุรกิจที่คล้ายกับ VISA แน่นอนว่าปัจจัยความเสี่ยงต่าง ๆ จึงย่อมมีเหมือนกัน อย่างในช่วงสองสามปีก่อนที่กระแสเงินดิจิทัลมาแรง หลายคนต่างพากันคาดการณ์ว่าสกุลเงินดิจิทัลเหล่านี้จะมาแทนที่การทำธุรกรรมแบบเดิม ๆ จนทำให้สถาบันการเงินแบบเดิม ๆ ต้องเดือดร้อนกันเป็นแถว แต่จากที่เราได้เห็น แม้สกุลเงินดิจิทัลจะเข้ามาเปลี่ยนโลกได้จริงแต่มันก็ไม่ได้ทำให้การใช้บัตรเดบิตหรือเครติตของ MasterCard ลดลง รายได้ของบริษัทเองก็เติบโตขึ้นอย่างสม่ำเสมอด้วยซ้ำไป

 

นอกจากนั้น อุตสาหกรรมอีคอมเมอร์ซที่โตระเบิดก็ยิ่งทำให้การใช้บัตรเครดิตและบัตรเดบิตเพิ่มขึ้นมากเข้าไปอีก เพราะทั้งผู้ซื้อและผู้ขายต่างก็มีการทำธุรกรรมมากขึ้น เมื่อมีธุรกรรมให้ประมวลผลมากขึ้น ก็ย่อมหมายถึงรายได้และผลกำไรของ MasterCard ที่จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน รวมถึงเทรนด์ของผู้บริโภคที่เริ่มใช้เงินสดน้อยลง เพราะถ้าเราลองสังเกตตัวเองดี ๆ จะเห็นว่าตอนนี้คนใช้เงินสดน้อยลงกว่าเมื่อก่อนมาก ส่วนหนึ่งก็เพราะการจ่ายเงินซื้อของต่าง ๆ ด้วยเงินไม่กี่บาท ก็สามารถทำได้ด้วยบัตรเครดิตและบัตรเดบิต และดูเหมือนว่าเทรนด์ของสังคมไร้เงินสดจะเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น

 

ราคาหุ้น MasterCard อาจขึ้นมา 70 เท่าแล้ว แต่ถ้าพื้นฐานธุรกิจมันยังไปต่อได้ ราคาก็พร้อมจะไปสูงกว่านี้ได้เสมอแม้มันจะดูแพงมากก็ตาม

 

ลงทุนศาสตร์ – Investerest

ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , OFFICIAL LINE และ WEBSITE

 

พิเศษ! เข้ากลุ่มเรียนหุ้นออนไลน์ฟรีกับลงทุนศาสตร์แบบไม่มีเงื่อนไขได้ที่ : เรียนหุ้นฟรีกับลงทุนศาสตร์

 

เอกสารอ้างอิง
รายงานประจำปี MasterCard : ezodproxy.com
ประวัติ MasterCard : mastercard.us
งบการเงิน MasterCard : finance.yahoo.com
5 Things You Didn’t Know About Mastercard Inc : fool.com

 

อัพเดทล่าสุดเมื่อ :

เกี่ยวกับผู้เขียน

ลงทุนศาสตร์

ผมเขียนบทความเกี่ยวกับการลงทุนตั้งแต่เบื้องต้น เหมาะสำหรับผู้ลงทุนหรือผู้ที่มีความสนใจที่จะลงทุนที่รักหรือมีทีท่าว่าจะรักในศาสตร์ของการลงทุนเหมือนกัน