Li Ka-Shing จากดอกไม้พลาสติกสู่อาณาจักรแห่งสินทรัพย์

เส้นทางความสำเร็จของอีกหนึ่งนักธุรกิจผู้ถูกยกย่องว่าทรงอิทธิพลทางธุรกิจ Li Ka-Shing นักธุรกิจผู้ร่ำรวยและใจบุญแห่งเกาะฮ่องกง กับฉายา Superman ที่มาจากเรื่องราวการต่อสู้กับความยากจน ความขมขื่นจากการไร้อำนาจ และความโดดเดี่ยว ที่คอยขับเคลื่อนและผลักดันให้เขาประสบความสำเร็จ กลายเป็นนักธุรกิจผู้มีความแข็งแกร่งและมั่นคงทางการเงินระดับโลกด้วยมูลค่าทรัพย์สินกว่า 39 พันล้านเหรียญสหรัฐ

Li Ka-Shing เกิดในครอบครัวที่ค่อนข้างยากจน เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ค.ศ. 1928 ในมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน เขาเติบโตขึ้นมาในช่วงเวลาที่ประเทศจีนเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวายทางการเมือง และในค.ศ.1940 ครอบครัวเขาทั้งหมดจึงอพยพ ละทิ้งบ้านเรือนจากจีนแผ่นใหญ่ไปยังเกาะฮ่องกงเพื่อหลบเลี่ยงภัยสงครามจากการรุกรานของประเทศญี่ปุ่นบนแผ่นดินจีน ครอบครัวของเขาต้องดิ้นรนและปรับตัวเพื่อเริ่มต้นชีวิตกับสภาพแวดล้อมใหม่ หลังจากนั้นไม่นานพ่อของ Li ก็ล้มป่วยด้วยวัณโรคและจากไป เมื่อไร้หัวหน้าครอบครัวดูแล Li จึงต้องลาออกจากโรงเรียนและเริ่มทำงานหาเลี้ยงครอบครัวด้วยวัยเพียง 15 ปี

Li Ka-Shing สมัครเข้าเป็นคนงานในโรงงานพลาสติก ทำงานด้วยความขยันขันแข็ง เขานำพาตัวเขานั้นไปสู่ตำแหน่งพนักงานขายเข็มขัดและสายนาฬิกาพลาสติก โดยที่บ่อยครั้งที่เขาใช้เวลาอยู่กับงานมากถึง 16 ชั่วโมงต่อวัน ด้วยประสบการณ์อันล้ำค่าที่สั่งสมมาในอุตสาหกรรมพลาสติก ค.ศ. 1950 เมื่อ Li อายุได้ 22 ปี เขาจึงตัดสินใจเริ่มธุรกิจของเขาเองด้วยเงินเก็บจำนวน 6,500 เหรียญ และการกู้ยืมมาจากญาติอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อเปิดบริษัทผลิตของเล่นและดอกไม้พลาสติกที่มีชื่อว่า Cheung Kong โดยส่งขายยังประเทศสหรัฐอเมริกา

ด้วยความฉลาดและมีวิสัยทัศน์ทำให้เขามองหาโอกาสในการขยายและพัฒนาธุรกิจของเขาอยู่ตลอดเวลา หลังจากที่บริษัททำพลาสติกของเขาเติบโตและสร้างกำไรให้เขามากพอ เขาจึงหันมาลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยการซื้อโรงงานพลาสติกแห่งแรกเป็นของตนเอง และผันตัวมาทำธุรกิจพัฒนาและบริหารอสังหาริมทรัพย์ Li กลายเป็นนักพัฒนาเอกชนชั้นนำของฮ่องกง เขาเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็น Cheung Kong Holdings และจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงใน ค.ศ. 1972 และเข้าซื้อ Hutchison Whampoa จาก HSBC เพื่อเพิ่มความหลากหลายของอุตสาหกรรมให้กับธุรกิจ

Hutchison Whampoa ภายใต้การดูแลของ Li ได้ลงทุนในธุรกิจหลายภาคส่วน ได้แก่ การค้าปลีก การซื้อขายสินทรัพย์ และการคมนาคมและโทรคมนาคมในหลายประเทศ อีกทั้งยังรุกเข้าสู่ธุรกิจด้านเทคโนโลยีและ Internet อย่างรวดเร็ว Horizons Ventures เป็นอีกหนึ่งบริษัทของเขา ที่เน้นการลงทุนในบริษัท Startup ด้าน Internet และเทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยเฉพาะการซื้อหุ้นในธุรกิจดิจิทัล นอกจากนี้บริษัทของเขายังมีสัดส่วนในการครอบครองหุ้น 0.8%ของ Facebook และบริการ Streaming เพลงออนไลน์อย่าง Spotify อีกด้วย

ปัจจุบัน Li Ka-Shing ได้เกษียณตนเอง วางมือจากภาระงานและใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย โดยมีบุตรชายทั้งสองของเขาดูแลธุรกิจ แม้ Li Ka-Shing จะเป็นนักธุรกิจรายใหญ่ที่ร่ำรวยและทรงอิทธิพลของเอเชียแล้ว เขายังมุ่งเน้นทำกิจกรรมการกุศลด้วยการก่อตั้งมูลนิธิ Li Ka Shing Foundation และองค์กรการกุศลอื่น ๆ ซึ่งบริจาคเงินหลายล้านให้กับโรงพยาบาล และมหาวิทยาลัยหลายแห่ง ทั้งในทวีปเอเชียและอเมริกา อีกทั้งยังให้การสนับสนุนช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์จากภัยพิบัติต่าง ๆ ผ่านมูลนิธิของเขาเอง