McCormick ผู้รังสรรค์รสชาติใหม่ ๆ ให้กับคนทั่วโลก
McCormick เป็นบริษัทที่ผลิตและจดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ซอสปรุงรส, ผงปรุงรส และผลิตภัณฑ์เสริมรสชาติครบวงจร บริษัทมีสายการผลิจที่ครบถ้วนตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ จนเกือบถึงปลายน้ำ กล่าวคือมีสถานที่ปลูกวัตถุดิบเพื่อให้ได้คุณภาพตามที่บริษัทกำหนด รวมถึงควบคุมกระบวนการผลิต และมีแหล่งจัดจำหน่ายของตัวเอง
ซึ่งบริษัทมีแบรนด์สินค้าครอบคลุมมากกว่า 170 ประเทศ และพยายามดำรงตำแหน่งการแข่นขันให้เป็น Global Leader in Flavor และเพื่อให้ได้เห็นภาพมากขึ้น ผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะมี แบรนด์ Aeroplane (เยลลี่ให้ความหวาน), Billy Bee (น้ำผึ้งบริสุทธิ์), Brand Aromatics (น้ำซุปปรุงสำเร็จครอบคลุมทุกรสชาติเมนูน้ำ), Cattlemen’s BBQ Sauce (ซอสบาบีคิวดีกรีแชมป์ ที่มาช่วยเพิ่มประสบการณ์ด้านการย่าง), Chohula Hot Sauce (ซอสเผ็ดสูตรลับกว่า 100 ปีแห่งเม็กซิโก), EarthRight (เครื่องเทศและสมุนไพรเพื่อสุขภาพ) กล่าวคือหากต้องการหารสชาติอะไร ทาง Mccormick ก็มีพร้อมให้อย่างครบถ้วน
บริษัทมีรายได้หลัก ๆ มาจาก 2 ภาคส่วนธุรกิจ ได้แก่ธุรกิจฝั่ง Consumer ซึ่งคือธุรกิจจำหน่ายซอสปรุงรส ผงปลุงรสภายใต้แบรนด์ของตัวเอง ซึ่งผู้บริโภคสามารถซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำได้ทั่วไป ภาคส่วนธุรกิจถัดมาเป็นธุรกิจ Flavor Solution ซึ่งเป็นธุรกิจที่วิจัยและพัฒนาผลิตรสชาติใหม่ ๆ ตามที่ลูกค้าระบุมา โดยสร้างรสชาติให้หลายผลิตภัณฑ์อาหาร ตั้งแต่เครื่องดื่ม ซีเรียล Snack เบเกอรี่ กล่าวคร่าว ๆ เป็นภาคส่วนธุรกิจที่เน้นในด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) สินค้าให้กับลูกค้าที่อยู่ในอุตสาหกรรมอาหารทั่วโลก
ปกติการ R&D จะมาเป็นภาคส่วนที่เป็นฝั่ง Cost มากกว่า นับว่าบริษัททำได้ดีที่นำจุดนี้มาหารายได้ให้กับตัวเองได้ แล้วยังสามารถ Research เพื่ออัพเกรดผลิตภัณฑ์ในอนาคตได้ด้วย นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างแบรนด์ให้กับตัวเองให้เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการสร้างรสชาติใหม่ ๆ อีกด้วย
แต่จุดด้วยของบริษัทจำพวกนี้เองก็มีอยู่มาก ตั้งแต่เรื่องปัญหา Raw Material อ้างอิงกับพืชผลทางการเกษตรที่มีความแปรผันไปพร้อมกับฤดูกาลรวมถึงโรคทางพืชต่าง ๆ ต่อมาก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่ผลิตภัณฑ์เดิม ๆ อาจไม่ตอบโจทย์พวกเขาก็ได้หากมีสิ่งที่ดีกว่ามานำเสนอเขา โดยเฉพาะในยุคที่เรามีตัวเลือกในการทาน การซื้อของออนไลน์ (ถึงอย่างนั้นเองบริษัทก็มีข้อดีตรงที่มีความสม่ำเสมอของรสชาติ ไม่ว่าจากการมีสายการผลิตที่แข็งแกร่ง หรือการทำ Quality Contro)
ดังนั้นแล้วปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตลาดซอสปรุงรสเองเป็นภาคส่วนที่นับว่าเป็น Red Ocean มาก ๆ ที่เราต้องแข่งขันทั้งแบรนด์ซอสจากต่างประเทศ ในประเทศ รวมถึงระดับ Local ที่มาตีตลาดขายกับบริษัทอีกด้วย
บริษัทมีงบการเงินย้อนหลังดังต่อไปนี้
ปี 2015
บริษัทมีรายได้ 4.30 พันล้านเหรียญ
มีกำไรขั้นต้นที่ 1.73 พันล้านเหรียญ (คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 40.36%)
มีกำไรสุทธิ 401.60 ล้านเหรียญ (คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 9.35%)
ปี 2016
บริษัทมีรายได้ 4.41 พันล้านเหรียญ (รายได้เติบโต 5.43%)
มีกำไรขั้นต้นที่ 1.83 พันล้านเหรียญ (คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 41.44%)
มีกำไรสุทธิ 472.30 ล้านเหรียญ (คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 10.71%)
ปี 2017
บริษัทมีรายได้ 4.81 พันล้านเหรียญ (รายได้เติบโต 9.58%)
มีกำไรขั้นต้นที่ 2.03 พันล้านเหรียญ (คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 41.99%)
มีกำไรสุทธิ 477.40 ล้านเหรียญ (คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 9.88%)
ปี 2018
บริษัทมีรายได้ 5.30 พันล้านเหรียญ (รายได้เติบโต 9.70%)
มีกำไรขั้นต้นที่ 2.10 พันล้านเหรียญ (คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 39.54%)
มีกำไรสุทธิ 933.40 ล้านเหรียญ (คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 17.60%)
ปี 2019
บริษัทมีรายได้ 5.35 พันล้านเหรียญ (รายได้เติบโต 0.84%)
มีกำไรขั้นต้นที่ 2.14 พันล้านเหรียญ (คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 40.09%)
มีกำไรสุทธิ 702.70 ล้านเหรียญ (คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 13.14%)
ปี 2020
บริษัทมีรายได้ 5.60 พันล้านเหรียญ (รายได้เติบโต 4.75%)
มีกำไรขั้นต้นที่ 2.30 พันล้านเหรียญ (คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 41.04%)
มีกำไรสุทธิ 747.40 ล้านเหรียญ (คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 13.34%)
ปี 2021
บริษัทมีรายได้ 6.32 พันล้านเหรียญ (รายได้เติบโต 12.79%)
มีกำไรขั้นต้นที่ 2.51 พันล้านเหรียญ (คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 39.67%)
มีกำไรสุทธิ 755.30 ล้านเหรียญ (คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 11.95%)
โดยส่วนตัวแล้วผลิตภัณฑ์ทั้งหลายและสิ่งที่บริษัททำนับว่าเป็นเรื่องที่น่าหลงไหลไม่น้อย กับการหาสีสันรสชาติใหม่ ๆ มาเติมเต็มพอร์ตตัวเองให้หลากหลายและครอบคลุม ทั้งนี้ ในเรื่องการบริหารบริษัทก็นับว่ามีการทำ Margin ได้สม่ำเสมอ ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาบริษัทสามารถรักษาอัตรา Gross Margin ได้อยู่ที่ 40% นิ่ง ๆ มาได้ตลอด และมีการสร้างการเติบโตแบบ Inorganic ให้กับตัวเองด้วย ผ่านการซื้อแบรนด์และบริษัทที่ครองทรัพย์สินทางปัญญาอื่นมาเพิ่ม Know How และที่ต้องชื่นชมคือถึงแม้จะครอบครองแบรนด์มาแล้วแต่ก็ยังคุมอัตรากำไรได้ดีไม่เหวี่ยงไปมา
(ซึ่งงบกระแสเงินสดอยู่ในรูปแบบ + – – กระแสเงินสดสุทธิแล้วมี Free Cash Flow ตลอดทุกปี)
ส่วนในด้านการใช้เงินสดในขั้นตอนสุดท้าย นอกจากบริษัทจะลงทุนต่อแล้ว บริษัทก็ยังใช้ไปกับการซื้อหุ้นคืนรวมถึงจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอด้วย หากอ้างอิงตาม Track Record ที่บริษัทนำเสนอมา บริษัทเองจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่องและเพิ่มขึ้นมากว่า 36 ปีแล้ว
สุดท้ายนี้ เรื่องของรสชาติคงเป็นเรื่องที่นามธรรมและสร้างความแปลกใจไม่น้อย การที่บริษัทใช้เทคโนโลยีเพื่อผลิตรสชาติใหม่ ๆ เพื่อหา Insight ของผู้บริโภคนี้ก็นับว่าท้าทายมากทีเดียว ว่าจะมีใครมาหาญสู้กับบริษัทได้หรือไม่
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , OFFICIAL LINE และ WEBSITE
พิเศษ! เข้ากลุ่มเรียนหุ้นออนไลน์ฟรีกับลงทุนศาสตร์แบบไม่มีเงื่อนไขได้ที่ : เรียนหุ้นฟรีกับลงทุนศาสตร์
อ้างอิง
https://www.tradingview.com/symbols/NYSE-MKC/financials-income-statement/
อัพเดทล่าสุดเมื่อ :