บทเรียนจากความสำเร็จระดับพันล้านของ Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI

Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI นับเป็นหนึ่งในผู้เปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของเทคโนโลยีที่โลกรู้จักไปตลอดการจากการสร้าง ChatGPT เขาได้รับการคัดเลือกให้เป็นซีอีโอแห่งปีในปี พ.ศ. 2566 โดยนิตยสาร TIME [1] และได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งในร้อยของบุคคลผู้ทรงอิทธิพลด้านเอไอโดยนิตยสาร TIME ในปี พ.ศ. 2567 [2] ในปี พ.ศ. 2568 นี้ Sam Altman มีความมั่งคั่งสุทธิ 1.2 พันล้านสหรัฐฯ [3] ในครั้งนี้ ลงทุนศาสตร์ขอพาท่านผู้อ่านไปสำรวจบทเรียนจากความสำเร็จระดับพันล้านของ Sam Altman ดังต่อไปนี้ [4]

ความสำเร็จของ Sam Altman มีที่มาจากความสงสัยใคร่รู้ และพัฒนาความสงสัยนั้นไปสู่คำถามที่ทำให้เกิดการเรียนรู้เติบโต ตัวเขาเกิดที่ St. Louis ในปี พ.ศ. 2528 และมีความสนใจในเทคโนโลยีตั้งแต่ยังอายุน้อย เริ่มจากการได้รับคอมพิวเตอร์เครื่องแรกในชีวิตเมื่ออายุได้ 8 ขวบ เขาเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับกลไกการทำงานของคอมพิวเตอร์ โปรแกรมและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง จนกระทั่งเข้าเรียนที่ Stanford University ในหลักสูตรวิทยาการคอมพิวเตอร์ ก่อนจะตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยและเดินต่อไปในเส้นทางผู้ประกอบการด้วยการค้นคว้าและหาประสบการณ์ด้วยตัวเอง

ช่วงเวลาหลังจากที่ลาออกจากการศึกษา Sam Altman ได้ร่วมก่อตั้ง Loopt แอปพลิเคชันสำหรับใช้งานในโทรศัพท์มือถือเพื่อแชร์ตำแหน่ง โดยใช้ประโยชน์จาก GPS เพื่อเพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อผู้คนเข้ากับแวดวงสังคม ทั้งการระบุตำแหน่งที่อยู่ การค้นหากิจกรรมหรือผู้คนที่มีความสนใจใกล้กันในละแวกเดียวกัน ต่อมาในปี พ.ศ. 2555 Sam Altman ได้ขาย Loopt ให้แก่ Green Dot Corporation ในราคา 43.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แม้จะขายบริษัทไปแล้ว แต่ตัวเขาเองได้สะสมประสบการณ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทำธุรกิจสตาร์ทอัพ รวมถึงกลยุทธ์การตลาดที่สำคัญ ส่งผลให้ Sam Altman ยิ่งมีความสนใจในแวดวงเทคโนโลยี และเริ่มพัฒนาโครงการใหม่ที่น่าสนใจกว่าเคย

ก่อนช่วงเวลาที่เขาตัดสินใจขาย Loopt ในปี พ.ศ. 2554 ตัวเขาเองได้เข้าไปมีส่วนร่วมในบริษัท Y Combinator บริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี ในฐานะหุ้นส่วนแบบพาร์ทไทม์ และได้ก้าวขึ้นเป็นประธานของ Y Combinator ในปี พ.ศ. 2557 และเริ่มพัฒนา OpenAI ร่วมกับ Elon Musk และนักลงทุนรายอื่นในปี พ.ศ. 2558 จนกระทั่ง OpenAI ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในปัจจุบันนี้ ตลอดเส้นทางความก้าวหน้าของเขา เหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาไม่เคยหยุดพัฒนาคือการเชื่อมั่นในตนเอง ซื่อตรงต่อความสนใจใคร่รู่ และต่อยอดคำถามที่มีให้ก้าวไกลไปมากกว่าจะปล่อยให้มันเป็นเพียงความสงสัย

การจะพัฒนาตนเองให้เรียนรู้ต่อไปต้องอาศัยทั้งความขยัน อดทน รวมถึงความกล้าที่จะต่อสู้แม้ในวันที่เผชิญกับปัญหา ดังจะเห็นได้ว่าในช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ. 2566 Sam Altman ถูกไล่ออกจากตำแหน่งซีอีโอของ OpenAI แต่ก็ถูกเชิญกลับมารับตำแหน่งอีกครั้งภายในไม่กี่สัปดาห์ [5] บทเรียนความสำเร็จของ Sam Altman แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าผู้ที่กล้าจะยืนหยัดในสิ่งที่ตนเองรัก พัฒนาความสนใจให้กลายเป็นความสำเร็จ ย่อมได้รับโอกาสที่จะเรียนรู้และเติบโต จนกระทั่งประสบความสำเร็จตามที่คิดหวังไว้ได้ในที่สุด