WORK กับกำไรที่โตขึ้น 7,000% | ลงทุนศาสตร์ Investerest.co

WORK กับกำไรที่โตขึ้น 7,000%

ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่บริษัทสักแห่งจะสามารถทำผลประกอบการให้เติบโตขึ้นเป็นประวัติการณ์ได้ และยิ่งยากขึ้นไปอีกถ้าในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นวิกฤตที่หลายบริษัทยากที่จะหลีกเลี่ยง

COVID-19 ก็เป็นหนึ่งในวิกฤตที่ทั่วโลกกำลังประสบ สำหรับในประเทศไทย สถานการณ์เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปีนี้เป็นต้นมา จนส่งผลให้หลาย ๆ บริษัทได้รับผลกระทบ ทั้งรายได้ที่ลดลง กำไรที่ลดลง หรืออาจถึงขั้นขาดทุนหนัก

แต่มีอยู่บริษัทหนึ่ง ที่จากงบการเงินไตรมาสล่าสุดได้ประกาศออกมาว่ามีกำไรสุทธิที่โตขึ้นถึงกว่า 7,000% เมื่อเทียบกับปีก่อน และยังเป็นกำไรสุทธิที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกด้วย

บริษัทนั้นคือ WORK

WORK หรือ บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในบริษัทสื่อยักษ์ใหญ่ผู้เป็นเจ้าของทั้งสถานีโทรทัศน์ ช่องข่าว และรายการทีวีชื่อดังมากมาย

ขึ้นชื่อว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสื่อและสถานีโทรทัศน์ ปัจจัยที่ส่งผลต่อรายได้และกำไรสุทธิของบริษัท จะมาจากปัจจัยหลัก ๆ สองอย่าง คือจากจำนวนผู้เข้าชม และเม็ดเงินโฆษณาว่ามากน้อยแค่ไหน

หากมองในมุมนี้ ธุรกิจสถานีโทรทัศน์น่าจะได้รับผลกระทบไม่มากนักจากวิกฤต COVID-19 ที่เกิดขึ้น แต่อันที่จริงแล้ว ในการผลิตรายการทีวีหรือสื่อต่าง ๆ นั้นหนีไม่พ้นการมาปฏิสัมพันธ์กันของผู้คนในแต่ละฝ่าย ทั้งนักแสดง นักข่าว พิธีกร ทีมงานเบื้องหลัง ฯลฯ

นั่นเท่ากับว่า จริง ๆ แล้วธุรกิจสถานีโทรทัศน์อย่าง WORK ก็ได้รับผลกระทบเช่นกันจากการที่ไม่สามารถผลิตสินค้า (ในที่นี้คือรายการต่าง ๆ) ได้ตามปกติ และเมื่อไม่มีสินค้าใหม่ จำนวนผู้เข้าชมย่อมลดน้อยลง รวมไปถึงเม็ดเงินโฆษณาที่อาจลดลงด้วย

จึงทำให้ในการระบาดครั้งแรกของ COVID-19 เมื่อปีที่แล้ว ส่งผลให้รายได้และกำไรของบริษัทลดฮวบ ในไตรมาสที่เลวร้ายที่สุดนั้น WORK มีกำไรสุทธิเหลือเพียง 2 ล้านบาทเท่านั้นเอง

งบการเงินของ WORK ในช่วงที่เกิด COVID-19 รอบแรก

ไตรมาส 4 ปี 2562
รายได้ 670 ล้านบาท
ค่าใช้จ่าย 701 ล้านบาท
กำไรสุทธิ -31 ล้านบาท

ไตรมาส 1 ปี 2563
รายได้ 605 ล้านบาท
ค่าใช้จ่าย 549 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 46 ล้านบาท

ไตรมาส 2 ปี 2563
รายได้ 469 ล้านบาท
ค่าใช้จ่าย 467 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 2 ล้านบาท

แต่เพราะธุรกิจไม่เคยหยุดที่จะปรับตัว ที่ผ่านมา WORK (และบริษัทสื่ออื่น ๆ) ได้ปรับวิธีการทำงานใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์โรคระบาดที่ไม่มีทีท่าว่าจะจบง่าย ๆ การดำเนินธุรกิจของ WORK จึงกลับมาได้จนแทบจะเรียกว่าเป็นปกติ มีรายการทีวีใหม่ ๆ ทีมงานสามารถทำงานที่บ้านได้ และบริษัทก็ควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง

จนในงบการเงินของไตรมาส 2 ปี 2564 ที่เพิ่งประกาศล่าสุด WORK มีกำไรสุทธิสูงถึง 154 ล้านบาท ซึ่งสูงยิ่งกว่าสถานการณ์ช่วงก่อนจะเกิด COVID-19 เสียอีก หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนแล้ว กำไรสุทธิไตรมาสนี้ของ WORK เพิ่มขึ้นถึงกว่า 7,000%

งบการเงิน WORK สามไตรมาสล่าสุด

ไตรมาส 4 ปี 2563
รายได้ 642 ล้านบาท
ค่าใช้จ่าย 602 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 40 ล้านบาท

ไตรมาส 1 ปี 2564
รายได้ 580 ล้านบาท
ค่าใช้จ่าย 462 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 118 ล้านบาท

ไตรมาส 2 ปี 2564
รายได้ 576 ล้านบาท
ค่าใช้จ่าย 422 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 154 ล้านบาท

จากคำอธิบายของฝ่ายจัดการ บริษัทได้ชี้แจงว่าสาเหตุหลักที่ทำให้ผลประกอบการดีขึ้นมาจาก 2 ส่วนด้วยกัน ได้แก่รายได้จากธุรกิจรายการโทรทัศน์ที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่สามารถควบคุมได้ดีขึ้น

ในเรื่องของธุรกิจรายการโทรทัศน์ เนื่องจาก WORK เคยผ่านช่วงที่เกิด COVID ระบาดหนัก ๆ มาแล้ว ทำให้บริษัทสามารถปรับตัวให้เข้ากับการระบาดรอบใหม่ได้เป็นอย่างดี จนมีรายการทีวีใหม่ ๆ ออกมาเพื่อตอบสนองผู้ชมได้มากขึ้น และทำให้รายได้จากธุรกิจนี้เพิ่มขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ส่วนในเรื่องของต้นทุน ถึงแม้จะมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น แต่ต้นทุนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แทบจะคงที่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมถึงค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารที่ลดลงด้วย จึงส่งผลให้ภาพรวมของ WORK มีกำไรไตรมาสนี้สูงมาก

แน่นอนว่า WORK ยังคงต้องเผชิญความท้าทายอยู่ เพราะงบการเงินที่เพิ่งออกล่าสุดนั้นเป็นของไตรมาส 2 แต่ในปัจจุบันที่เรากำลังอยู่ไตรมาส 3 สถานการณ์ COVID-19 รุนแรงขึ้นกว่าเดิมมาก จนอาจส่งผลให้บริษัทได้รับผลกระทบมากกว่าปกติ

แต่บริษัทใดก็ตามที่สามารถปรับตัวได้ บริษัทนั้นย่อมเป็นผู้อยู่รอด เหมือน WORK ที่มีกำไรสุทธิโตขึ้นเป็นประวัติการณ์