Xiaomi มีรายได้จากการขายรถยนต์ไฟฟ้ามากน้อยแค่ไหน
Xiaomi Corporation ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 และเป็นที่รู้จักอย่างดีในฐานะบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงอุปกรณ์อัจฉริยะทั้งหลาย ตั้งแต่โทรศัพท์มือถือ สมาร์ทวอทช์ อุปกรณ์เทคโนโลยีสมาร์ทโฮม จนในช่วงเดือนตุลาคม ปี พ.ศ. 2566 บริษัทได้ประกาศกลยุทธ์การสร้างระบบนิเวศอัจฉริยะ “ผู้คน x รถยนต์ x บ้าน” เพื่อผสมผสานการตอบสนองความต้องการอันหลากหลายของผู้ใช้งานไว้ด้วยกัน ต่อมา วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2567 บริษัทได้เปิดตัว Xiaomi SU7 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของบริษัท [1] การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าในครั้งนี้ สร้างรายได้ให้แก่บริษัทอย่างมหาศาล ในครั้งนี้ ลงทุนศาสตร์ขอพาท่านผู้อ่านไปสำรวจรายได้จากการขายรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัท ดังต่อไปนี้ [2, 3, 4, 5]
นับตั้งแต่เริ่มเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าในช่วงปลายเดือนมีนาคม Xiaomi SU7 ก็ขายได้มากถึง 7,058 คันภายในเดือนเมษายน ส่งผลให้บริษัทก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่อันดับ 8 ของประเทศจีน แทนที่บริษัท Avatr ซึ่งเป็นแบรนด์ย่อยของบริษัทรถยนต์ Changan Automobile และกลายเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ในแวดวงรถยนต์ไฟฟ้าของจีนที่น่าจับตามอง ท่ามกลางการแข่งขันในบรรดาบริษัทที่ได้รับความนิยมในประเทศ ไม่ว่าจะเป็น Nio หรือ Xpeng รวมทั้งแบรนด์เก่าแก่อย่าง Volkswagen และบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีชื่อเสียง เช่น Tesla, BYD และ Geely [2]
ความสำเร็จอย่างงดงามตั้งแต่เปิดตัวส่งเสริมให้บริษัทเริ่มตั้งเป้าที่จะขายรถยนต์ให้ได้ถึง 1 แสนคันภายในสิ้นปี เท่ากับว่าบริษัทต้องขายรถยนต์ให้ได้ประมาณเดือนละ 11,000 คัน เป้าหมายดังกล่าวนั้นไม่นับว่าไกลเกินเอื้อม หากพิจารณาจากยอดขายในไตรมาสที่ 2 จะเห็นได้ว่า บริษัทขายรถยนต์ไฟฟ้าไปแล้วมากกว่า 27,307 คัน สร้างรายได้ให้กับบริษัทมากถึง 6.2 พันล้านหยวน ความสำเร็จในครั้งนี้ทำให้บริษัทขยับเป้าหมายการขายรถยนต์ไฟฟ้า จาก 1 แสนคัน เพิ่มเป็น 1 แสน 2 หมื่นคันภายในสิ้นปีนี้ [3]
ยอดขายภายในไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมายิ่งสะท้อนให้เห็นว่าเป้าหมายของบริษัทนั้นสามารถทำได้จริง สิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา รถยนต์ไฟฟ้าสร้างรายได้ให้ Xiaomi รวม 9.25 หมื่นล้านหยวน บริษัทต่อยอดความสำเร็จครั้งนี้ทันทีด้วยการเปิดตัว SU7 Ultra รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นพรีเมียม และเตรียมพร้อมผลิตรถยนต์ 2 หมื่นคันต่อเดือน เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น Lu Weibing ประธานบริษัท Xiaomi ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่าความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการลงทุนอย่างมหาศาล ทั้งการพัฒนาฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ ไปจนถึงการศึกษาวิจัยเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องอยู่เสมอ [4]
ปัจจุบันนี้ Xiaomi ได้กระจายศูนย์ให้บริการขายรถยนต์ไฟฟ้าไปมากกว่า 138 แห่งใน 38 เมือง (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567) ในช่วงเวลา 230 วันนับตั้งแต่เริ่มเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า บริษัทได้ผลิตรถยนต์ไปมากกว่า 1 แสนคัน และพร้อมที่จะตั้งเป้าหมายการขายรถยนต์ไฟฟ้าใหม่อีกครั้ง จาก 1 แสน 2 หมื่นคัน เพิ่มเป็น 1 แสน 3 หมื่นคันภายในสิ้นปี [5] จากนี้ไป เราคงได้เห็นการแข่งขันที่น่าสนใจในแวดวงผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และได้เห็นการพัฒนาของเทคโนโลยีของ Xiaomi ที่จะเชื่อมต่อผู้คนเข้ากับอุปกรณ์อัจฉริยะอย่างหลากหลาย และขับเคลื่อนโลกใบนี้ต่อไปในอนาคต
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , และ WEBSITE
อ้างอิง
[1] Xiaomi. (March 19, 2024). Xiaomi’s 2023 Adjusted Net Profit Soars 126.3% to RMB19.3 billion. Retrived from https://www.mi.com/global/discover/article?id=3239
[2] Reuters. (May 15, 2024). Xiaomi becomes 8th largest EV upstart in China after successful SU7 launch. Retrieved from https://www.reuters.com/business/autos-transportation/xiaomi-becomes-8th-largest-ev-upstart-china-after-successful-su7-launch-2024-05-15
[3] Reuters. (August 21, 2024). Xiaomi Q2 revenue beats estimate, reveals auto unit sales. Retrieved from https://finance.yahoo.com/news/xiaomi-q2-revenue-jumps-32-095310462.html
[4] CNBC. (November 18, 2024). Xiaomi raises EV deliveries goal again on surging demand. Retrieved from https://www.cnbc.com/2024/11/18/xiaomi-q3-revenue-soars-30point5percent-as-sales-of-its-first-electric-car-surge.html
[5] Xiaomi. (October 31, 2024). Q3 2024 Results Announcement. Retrieved from https://ir.mi.com/system/files-encrypted/nasdaq_kms/assets/2024/11/18/6-11-14/Xiaomi%20Corp_24Q3_ER_ENG_vF.pdf
อัพเดทล่าสุดเมื่อ :