เศรษฐกิจ

Middle Corridor เส้นทางเชื่อมการขนส่งสำคัญจากเอเชียสู่ยุโรป

Middle Corridor เส้นทางเชื่อมการขนส่งสำคัญจากเอเชียสู่ยุโรป

Middle Corridor เส้นทางเชื่อมการขนส่งสำคัญจากเอเชียสู่ยุโรป

 

เส้นทางการขนส่งระหว่างประเทศทรานส์แคสเปียน (The Trans-Caspian International Transport Route : TITR) หรือที่เรียกว่า Middle Corridor เปรียบเสมือนหลอดเลือดแดงทางเศรษฐกิจสำคัญของยูเรเซีย ที่ช่วยอํานวยความสะดวกทางการค้าและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม มายาวนานนับพันปี

 

ปัจจุบัน เส้นทางนี้ได้รับการพัฒนาแบบพหุภาคีจากหลายสถาบัน เพื่อเชื่อมโยงจนเกิดเป็นเครือข่ายการขนส่งสินค้าทางรถไฟแบบคอนเทนเนอร์ จากสาธารณรัฐประชาชนจีนไปยังสหภาพยุโรป โดยเส้นทางนี้ ตัดผ่านศูนย์กลางเศรษฐกิจของเอเชียกลาง ทะเลแคสเปียน คอเคซัส ตุรกี และยุโรปตะวันออก

 

Middle Corridor นับได้ว่าเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุด จากชายฝั่งแปซิฟิกของจีนไปยังยุโรป เส้นทางนี้มีศักยภาพในการลดระยะเวลาในการขนส่ง ซึ่งระยะทางกว่า 2,500 กิโลเมตรคือระยะทางเฉลี่ย ที่สามารถประหยัดได้จากการใช้เส้นทางนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้เส้นทาง Northern Corridor ที่ตัดผ่านรัสเซีย หากจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพ คือคุณสามารถใช้เวลาในการขนส่งสินค้าจากเซี่ยงไฮ้ไปยังยุโรปราว 10 วันเมื่อใช้เส้นทาง Middle Corridor ในทางกลับกัน คุณอาจจะต้องใช้เวลาถึง 20 วัน เมื่อใช้เส้นทาง Northern Corridor หรือราว 45-60 วัน หากขนส่งทางทะเล นอกเหนือจากผลประโยชน์ที่ช่วยประหยัดเวลาแล้ว Middle Corridor ยังสามารถส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ การรวมกลุ่มในภูมิภาคและการกระจายตัวทางเศรษฐกิจอีกด้วย ซึ่งมีการวิเคราะห์ว่าการค้าระหว่างจีนและยุโรปมีมูลค่ากว่า 600 พันล้านดอลลาร์ต่อปี

 

การขนส่งผ่าน Middle Corridor กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากสถานการณ์การคว่ำบาตรของรัสเซีย ที่ทำให้การขนส่งผ่านทาง Northern Corridor หยุดชะงัก นั่นทำให้ในปี ค.ศ. 2022 Middle Corridor มีการเติบโตเป็นประวัติการณ์ ซึ่งปริมาณการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นสองเท่าครึ่ง เป็น 1.5 ล้านตัน และในไตรมาสแรกของปีนี้ ปริมาณการขนส่งสินค้าทางรถไฟเพิ่มขึ้นกว่า 60% เป็น 433,000 ตัน

 

การที่ตัวเลขเหล่านี้เพิ่มขึ้นชี้ให้เห็นถึงการเติบโต และการพัฒนารวมไปถึงแนวโน้มที่ดีในอนาคต แต่ก็ต้องยอมรับว่า Middle Corridor ยังคงเป็นรอง Northern Corridor อยู่เล็กน้อย โดยจากการรายงานพบว่า ปริมาณขนส่งรวมทั้งหมดมีสัดส่วนน้อยกว่ากันราว 10%

 

ประเทศที่เป็นทางผ่านของ Middle Corridor ต่างก็มองเห็นถึงโอกาสในการลงทุน เริ่มมีการดำเนินการต่าง ๆ ที่สำคัญเพื่อดึงผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจากเส้นทางนี้ ซึ่งในการประชุมระดับรัฐมนตรี ว่าด้วยการเชื่อมต่อทรานส์แคสเปียน ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ณ เมือง Aktau ประเทศคาซัคสถาน ผู้เข้าร่วมได้ลงนามในแผนงาน เพื่อเพิ่มกําลังการผลิตของ Middle Corridor เป็น 10 ล้านตันต่อปี ภายในปี พ.ศ. 2568

 

ไม่เพียงแต่ภาครัฐเท่านั้น ภาคเอกชนเองก็มีความตื่นตัวในการขับเคลื่อนเส้นทางนี้โดยบริษัทใหญ่ด้านโลจิสติกส์หลายรายอย่าง Mærsk ของเดนมาร์ก Austria’s Rail Cargo Group ของออสเตรีย Nurminen ของฟินแลนด์ และ Dutch Rail Bridge Cargo เป็นต้น โดยบริษัทเหล่านี้ต่างก็เพิ่มการดําเนินงานที่จะเอื้ออำนวยให้เกิดการหมุนเวียนสินค้าตลอดเส้นทาง

 

ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน จะช่วยให้การขนส่งผ่านเส้นทาง Middle Corridor ถูกเปลี่ยนแปลงไปเป็นเส้นทางหลัก ที่มีศักยภาพสูงและเพียงพอต่อการรองรับกับการเติบโต ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งทั้งนี้ต้องอาศัยการพัฒนา ทั้งในเรื่องของโครงสร้างหลักและโครงสร้างรอง ที่นำไปสู่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานสีเขียวและการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้

 

ลงทุนศาสตร์ – Investerest

ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , และ WEBSITE

 

อ้างอิง
https://www.weforum.org/agenda/2023/06/creating-a-green-and-digital-corridor-through-eurasia/
https://middlecorridor.com/en/

 

อัพเดทล่าสุดเมื่อ :

เกี่ยวกับผู้เขียน

ลงทุนศาสตร์

ผมเขียนบทความเกี่ยวกับการลงทุนตั้งแต่เบื้องต้น เหมาะสำหรับผู้ลงทุนหรือผู้ที่มีความสนใจที่จะลงทุนที่รักหรือมีทีท่าว่าจะรักในศาสตร์ของการลงทุนเหมือนกัน