Digital Detox สำคัญอย่างไร
ชีวิตมนุษย์ปัจจุบันทุกวันได้รับข่าวสาร คุยกับคนรู้จัก แสดงออกไลฟ์สไตล์ ความเป็นตัวเอง ทุกอย่างเหล่านี้บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ตื่นมาก็ต้องเปิดโทรศัพท์ดูการแจ้งเตือน ก่อนนอนก็ต้องปิดโทรศัพท์เช็คให้เรียบร้อยเพื่อตื่นวันต่อไป ช่วงเวลาที่ใช้เวลากับหน้าจอ ทั้งมือถือและการทำงานบนคอมพิวเตอร์กินเวลาเป็นช่วงใหญ่ ๆ ของวัน แต่การอยู่กับข้อมูลดิจิทัลทุกวัน หลายครั้งก็ทำให้เกิดผลลบ วันนี้ลงทุนศาสตร์ชวนมาคุยถึงคำว่า “Digital Detox” ว่าสำคัญอย่างไร
Digital Detox หมายถึงการมีช่วงเวลาหนึ่งที่คนเราลดการใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีอย่าง สมาร์ตโฟน คอมพิวเตอร์ แท๊บเล็ต ในการเข้าถึงโซเชียลมีเดียให้น้อยลง แล้วหันมาใช้เวลากับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าในชีวิตจริงโดยปราศจากสิ่งรบกวน ซึ่งจะช่วยให้ลดความตึงเครียดที่สะสมในตัวเราจากการเชื่อมต่อกับโลกดิจิทัลตลอดเวลา
โดยเราอาจจะสงสัยว่า เมื่อไหร่ที่เราควร Digital Detox ได้แล้ว ทาง SCBX ได้แนะนำว่า ให้ลองสำรวจสัญญาณต่าง ๆ เหล่านี้
- รู้สึกเครียด และกระวนกระวายเมื่อหามือถือไม่เจอ
- รู้สึกว่า “ต้อง” เช็คมือถืออยู่ตลอดเวลา
- หดหู่ กังวล หรือโกรธ หลังจากเล่นโซเชียลมีเดีย
- หมกมุ่นกับยอดไลค์ คอมเมนท์ แชร์ในโพสต์ของคุณ
- กลัวว่าจะพลาดบางอย่างไปถ้าไม่คอยเช็กมือถือ
- พบว่าตัวเองนอนดึกหรือตื่นเช้าเพื่อมาเล่นมือถือ
- ไม่มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ถ้าไม่ได้เช็กมือถือ
โดยผลกระทบของเทคโนโลยีกับชีวิตของเราได้แก่
- เทคโนโลยีก่อให้เกิดความเครียดได้
- อุปกรณ์เหล่านี้รบกวนช่วงเวลา การใช้อุปกรณ์เหล่านี้ระหว่างที่อยู่บนเตียงก่อนนอนจะเพิ่มทำให้มีโอกาสเพิ่มความกังวลใจ นอนไม่หลับ หรือทำให้นอนหลับไม่เพียงพอและมีผลต่ออารมณ์ในวันต่อไปด้วย
- อีกเรื่องคือ การเปรียบเทียบกับคนอื่นในบนโซเชียลมีเดียลดความพึงพอใจในชีวิต ความรู้สึกเลยว่าตัวเองมีไม่พอ รวยไม่พอ เก่งไม่พอ รู้สึกว่าตัวเองเล็กลงไปเรื่อย ๆ
- การเชื่อมต่อตลอดเวลานั้นยิ่งทำให้รู้สึก FOMO (Fear Of Missing Out) มากยิ่งขึ้น เป็นความรู้สึกที่ว่าตัวเองกำลังพลาดอะไรสำคัญ ๆ ไปหรือ ทำให้เราต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็กอยู่ตลอดเวลาเพราะกลัวจะพลาดอะไรไป
แล้วการทำ Digital Detox มีอะไรบ้าง
- การปิดแจ้งเตือนมือถือเป็นการตัดวงจรความอยากรู้ ให้ลองเลือกช่วงเวลาที่มักจะเป็นช่วงว่าง ๆ ไม่ค่อยมีใครติดต่อเข้ามา ลองใช้เวลาสัก 15 – 30 นาทีเพื่อปิดแจ้งเตือน แล้วไปโฟกัสกับงานที่ต้องใช้สมาธิทำมาก ๆ แทน
- กำหนดช่วงเวลาเล่นมือ เช่นไม่เล่นมือถือก่อนเวลาที่ตั้งใจจะเข้านอน 1 ชั่วโมง หรือถ้าต้องเปิดคอมทำงาน ก็ลองกำหนดว่าจะทำงานถึงหนึ่งทุ่มเท่านั้น หรือจะทำงานช่วง 00 – 15.00 น. เท่านั้นในวันหยุด ที่สำคัญคือ เมื่อตั้งเวลาไว้แล้ว ก็ต้องทำตามกันที่สัญญาไว้กับตัวเองอย่างเคร่งครัด
- หากิจกรรมอย่างอื่นทำยามว่าง ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย ปลูกต้นไม้ เล่นกับสัตว์เลี้ยงตัวโปรด พูดคุยกับเพื่อนหรือคนในครอบครัวแบบตัวเป็น ๆ หรืออ่านหนังสือ
- มีหลายงานวิจัยพบว่า ห้องนอนเป็นพื้นที่ที่ไม่ควรมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใด ๆ มือถือก็เช่นกัน ถ้าคนใช้มือถือเป็นนาฬิกาปลุกแนะนำให้เปลี่ยนมาใช้นาฬิกาปลุกจริง ๆ แล้วชาร์ตมือถือไว้นอกห้องนอนเพราะทุกเช้าที่เอื้อมมือไปกด snooze หรือกดปิดเสียงปลุก มันจะทำให้เผลอกดเปิดแอปโซเชียลมีเดียต่าง ๆ โดยที่แทบไม่ต้องใช้ความคิด และรู้สึกเคยชินได้อย่างง่าย ๆ
สุดท้ายแล้ว คนที่จะสามารถประเมินว่าตัวเองต้องการ Digital Detox แล้วหรือยัง แล้วจะใช้วิธีอะไรบ้างในการช่วยเหลือตัวเองจากผลกระทบในแง่ลบของการใช้อุปกรณ์ดิจิทัลก็เป็นเรื่องที่ต้องปรับตัวตามความเหมาะสมของตัวเราเอง ดังนั้น Digital Detox จึงเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนพฤติกรรมของคน มากกว่าแค่หลักการ
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , OFFICIAL LINE และ WEBSITE
พิเศษ! เข้ากลุ่มเรียนหุ้นออนไลน์ฟรีกับลงทุนศาสตร์แบบไม่มีเงื่อนไขได้ที่ : เรียนหุ้นฟรีกับลงทุนศาสตร์
อ้างอิง
JobsDB, Digital Detox ปิดมือถือแล้วอยู่กับตัวเอง เทรนด์พักใจของคนวัยทำงาน, อ้างอิงจาก https://th.jobsdb.com/th-th/articles/digital-detox/
SCB, Digital Detox ลดความเครียดมนุษย์ยุคดิจิทัล, อ้างอิงจาก https://www.scb.co.th/th/personal-banking/stories/life-style/digital-detox.html
Beartai, Digital Detox คืออะไร ทำไมถึงมีประโยชน์ และทำยังไงถึงจะได้ผล, อ้างอิงจาก https://www.beartai.com/brief/949843
อัพเดทล่าสุดเมื่อ :