ลงทุนอย่างไรในปี 2023 คำแนะนำจากปีเตอร์ ลินช์

ปีค.ศ.2022 กำลังจะสิ้นสุดลง แต่วิกฤตเศรษฐกิจตลอดทั้งปีไม่ได้จบลงไปด้วย ภาวะเงินเฟ้อ ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น และความขัดแย้งจากสงครามยังคงดำเนินต่อไปในปีค.ศ.2023 ที่กำลังจะมาถึงนี้อย่างแน่นอน [1] ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายคาดการณ์ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกอาจเกิดขึ้นในช่วงปลายปีค.ศ.2023 หรือต้นปีค.ศ.2024 [2] จากสถานการณ์เหล่านี้ นักลงทุนต่างต้องเตรียมรับมือกับความผันผวนทางเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้น และอาจเกิดคำถามว่าควรเตรียมตัวสำหรับลงทุนในปีต่อไปอย่างไร

จากประเด็นนี้ ปีเตอร์ ลินช์ มหาเศรษฐีนักลงทุนชาวอเมริกันได้ให้คำแนะนำไว้ดังที่ได้เผยแพร่ในช่อง YouTube ของ New Money [3] ดังนี้

สำหรับปีเตอร์ ลินช์ สิ่งสำคัญที่เขาต้องการให้นักลงทุนให้ความสนใจ คือผลประกอบการที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริงกับบริษัทที่ต้องการลงทุน แม้ว่าสถานการณ์การเมือง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งหรือสงคราม รวมถึงวิกฤตเศรษฐกิจอาจส่งผลต่อตลาด แต่หากบริษัทมีการจัดการที่ดีพอก็จะสามารถประคองกิจการให้ดำเนินต่อไปได้ ดังนั้น นักลงทุนไม่ควรตื่นตระหนกกับปัจจัยภายนอกที่คาดการณ์ไม่ได้จนเกินไป ในทางกลับกัน นักลงทุนควรให้ความสำคัญกับทิศทางผลประกอบการของบริษัทซึ่งเป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้

ปีเตอร์ ลินช์ ได้เคยกล่าวไว้ว่า การลงทุนในหุ้นไม่ใช่เพียงการลงทุนซื้อตั๋วชิงโชค แต่เป็นการลงทุนกับบริษัทอันมีที่มาที่ไปชัดเจน หากบริษัทยังคงดำเนินกิจการต่อไปได้ดี หุ้นก็จะให้ผลตอบแทนที่ดีได้เช่นกัน ความสัมพันธ์ระหว่างหุ้นและบริษัทเป็นไปอย่างไม่ซับซ้อน แต่นักลงทุนมักจะเกิดความสับสนเมื่อต้องคาดการณ์ทิศทางหุ้น วิกฤตเศรษฐกิจกระตุ้นให้เหล่านักลงทุนรู้สึกกังวลและเริ่มพยายามคาดเดาตลาดหุ้น อัตราดอกเบี้ย รวมไปถึงปัจจัยทางเหตุการณ์การเมืองที่อาจกระทบต่อตลาดหุ้น

อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีใครสามารถคาดเดาทิศทางตลาดหุ้นได้ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ และไม่มีทางที่ใครจะล่วงรู้ได้ว่าวิกฤตเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นเมื่อใด จากประสบการณ์ของปีเตอร์ ลินช์ ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ผ่านมาทุกครั้งเกิดขึ้นโดยที่ไม่มีคำเตือนว่าตลาดหุ้นกำลังจะล่มในวันไหน ดังนั้น การมัวแต่คิดถึงปัจจัยภายนอกจึงเป็นความพยายามที่สูญเปล่า

ทั้งนี้ แม้ว่าจะไม่มีคำเตือนว่าหุ้นจะร่วงตกวันไหน แต่เราต่างก็รู้ดีว่าสถานการณ์เศรษฐกิจในปีค.ศ.2023 ที่จะมาถึงนี้ต้องได้รับผลกระทบจากสงครามและภาวะเงินเฟ้ออย่างแน่นอน ดังนั้น นักลงทุนล้วนต้องเผชิญกับการตั้งคำถามต่อตัวเองว่า จะลงทุนต่อไป หรือจะหยุดเพื่อรอพิจารณาสถานการณ์ จากประเด็นนี้ ปีเตอร์ ลินช์ได้ให้คำแนะนำที่น่าสนใจว่า สำหรับการลงทุนแบบเน้นคุณค่า เมื่อไหร่ก็ตามที่หุ้นร่วงตกลง สิ่งที่ควรให้ความสนใจต่อไปคือมูลค่าของหุ้นที่จะค่อย ๆ กลับมาเพิ่มขึ้นในระยะยาว

ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าเศรษฐกิจในปีหน้าจะเป็นอย่างไร รวมถึงเศรษฐกิจในอีก 3 ปี 5 ปี หรือ 10 ปีข้างหน้าว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป แม้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า แต่มูลค่าของหุ้นก็อาจเติบโตได้ในปีต่อ ๆ ไป เพราะฉะนั้น หากนักลงทุนพิจารณาดีแล้วและเห็นจังหวะในการลงทุนที่เหมาะสม ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องหยุดยั้งการลงทุนเพียงเพราะกังวลกับวิกฤตเศรษฐกิจที่จะเกิดในปีค.ศ. 2023