10 ประเทศน่าอยู่หลังเกษียณในปี 2023 เหตุผลที่ไทยไม่ติดอันดับ

สังคมผู้สูงอายุเกิดขึ้นในทุกประเทศทั่วโลก และตัวเลือกหลังการเกษียณของพลเมืองโลกนั้นก็มีอยู่มากมาย หนึ่งในทางเลือกที่ผู้คนส่วนหนึ่งให้ความสนใจคือการย้ายประเทศหลังจากเกษียณจากการงานอันเหน็ดเหนื่อย และใช้จ่ายเงินอยู่อย่างสะดวกสบายในประเทศใหม่ ทั้งนี้ ประเทศที่ผู้คนสนใจมาอยู่หลังจากเกษียณ ตามการจัดอันดับของ Nasdaq ในปี ค.ศ. 2023 ทั้ง 10 อันดับ ที่พิจารณาจากจีดีพี, ค่าครองชีพ และดัชนีสันติภาพโลก (ต้องต่ำกว่า 2.0) ได้ชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยไม่ติดอันดับหนึ่งในสิบ ในที่นี้ ลงทุนศาสตร์ขอกล่าวถึงประเทศที่ติดอันดับ 1 ใน 10 และเหตุผลที่ไทยไม่ติดอันดับในปีนี้ ดังต่อไปนี้ [1, 2, 3]

มาเลเซียก้าวขึ้นเป็นประเทศอันดับหนึ่งที่น่าอยู่หลังเกษียณ เนื่องจากดัชนีสันติภาพโลกที่อยู่ที่ 1.471 และค่าครองชีพต่อเดือนที่ไม่สูงนัก อยู่ที่ 1,066 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน รวมถึงจีดีพี 481.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับเป็นประเทศที่มีค่าครองชีพพอเหมาะพอดีกับความมั่นคงปลอดภัยในการอยู่อาศัย และความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ ในขณะที่คูเวต ซึ่งเป็นประเทศน่าอยู่หลังเกษียณอันดับสองมีค่าครองชีพต่อเดือนที่สูงกว่ามาเลเซีย (1,741 ดอลลาร์สหรัฐฯ) และมีดัชนีสันติภาพโลกอยู่ที่ 1.739 แม้ค่าครองชีพในคูเวตจะสูงกว่าประเทศอื่น แต่เมื่อพิจารณาร่วมกับดัชนีสันติภาพโลกแล้ว คูเวตก็กลายเป็นประเทศน่าอยู่หลังเกษียณอันดับสองขึ้นมาทันที

ประเทศน่าอยู่หลังเกษียณอันดับ 3 ได้แก่มองโกเลีย แม้ว่ามองโกเลียจะมีดัชนีสันติภาพโลกใกล้เคียงกับคูเวตอยู่ที่ 1.775 และมีค่าครองชีพต่อเดือนเพียง 940 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่จีดีพีที่มีเพียง 21 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ก็ทำให้มองโกเลียถูกจัดตำแหน่งอยู่ในอันดับที่ 3 ส่วนอันดับ 4-10 เรียงตามลำดับ ได้แก่ 4) เวียดนาม 5) อินโดนีเซีย 6) จอร์แดน 7) กัมพูชา 8) โอมาน 9) ไซปรัส และ 10) เนปาล จากอันดับที่ 1-10 ที่กล่าวมานี้ จะเห็นได้ว่าประเทศในตะวันออกเฉียงใต้อยู่ในรายการเกือบทั้งหมด ตั้งแต่มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย กัมพูชา เป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งว่า เหตุใดไทยจึงไม่ติดอันดับในปีนี้

คำตอบของคำถามนี้ คือการที่ไทยมีดัชนีสันติภาพโลกในปี ค.ศ. 2023 อยู่ที่ 2.1 ส่งผลให้ชื่อของประเทศไทยถูกคัดออกจากการคำนวณของ Nasdaq ไปโดยปริยาย สถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศไทยส่งผลให้ประเทศขาดเสถียรภาพ การเมืองที่ไม่แน่นอนทำให้ประเทศไทยยังคงถูกประเมินให้เป็นประเทศที่มีดัชนีสันติภาพโลกอยู่ในอันดับที่ 102 ของโลก [3] ส่งผลให้ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศน่าอยู่หลังเกษียณติดอันดับ 1 ใน 10 ไปอย่างน่าเสียดาย

ประเทศไทยมีศักยภาพในการรองรับผู้สูงอายุหลังเกษียณทั่วโลก ทั้งระบบการรักษาพยาบาล ให้บริการด้านสาธารณสุข และสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์ รวมถึงค่าครองชีพที่ไม่สูงมากนัก อย่างไรก็ตาม หากบ้านเมืองยังคงไม่มีระบบบริหารที่ชัดเจน ก็ชวนให้ถูกตั้งคำถามถึงความมั่นคงปลอดภัยในประเทศ และทำให้ประเทศหลุดออกจากการคำนวณของ Nasdaq ในที่สุด จากประเด็นนี้ เราคงได้แต่หวังว่าสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศไทยจะคลี่คลาย และทำให้ประเทศไทยมีดัชนีสันติภาพโลกที่สะท้อนถึงความสงบสุขในประเทศ ในระดับที่เป็นที่ยอมรับได้อีกครั้ง