สังคมศาสตร์

วิกฤตการณ์น้ำมันในความขัดแย้ง สงครามระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ส่งผลต่อน้ำมันได้อย่างไร ?

วิกฤตการณ์น้ำมันในความขัดแย้ง สงครามระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ส่งผลต่อน้ำมันได้อย่างไร ?

วิกฤตการณ์น้ำมันในความขัดแย้ง สงครามระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ส่งผลต่อน้ำมันได้อย่างไร ?

 

สงครามระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์เริ่มต้นจากการแย่งชิงดินแดนที่ยืดเยื้อยาวนาน จนกระทั่งระเบิดเป็นสงครามใหญ่อีกครั้งในวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมานี้ ผู้คนมากมายนับ 500 รายทั้งอิสราเอลและปาเลสไตน์ รวมถึงแรงงานไทยสูญเสียชีวิต ผู้คนส่วนหนึ่งถูกจับเป็นตัวประกัน บ้านเรือนพังย่อยยับ แต่ความเสียหายจากความขัดแย้งครั้งนี้ไม่ได้จบลงเพียงเท่านี้ สงครามระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ที่นำโดยกลุ่มฮามาสยังส่งผลกระทบต่อวิกฤตการณ์น้ำมันของโลก ในครั้งนี้ ลงทุนศาสตร์ขอนำเสนอผลกระทบของสงครามอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ที่มีต่อวงการน้ำมันโลก ดังนี้ [1, 2, 3, 4]

 

แม้ว่าทั้งอิสราเอลและปาเลสไตน์จะไม่ใช่ผู้เล่นรายใหญ่ในแวดวงน้ำมันของโลก แต่ความขัดแย้งของทั้งสองฝ่ายอาจส่งผลกระทบต่อประเทศรายรอบ ซึ่งเป็นผู้เล่นหลักในแวดวงน้ำมันทั้งหมด ทั้งในฐานะประเทศผู้ผลิต และผู้ส่งออก ประเทศแรกที่ผู้คนเฝ้าจับตามองในความขัดแย้งครั้งนี้ คืออิหร่าน ในฐานะที่เป็นผู้สนับสนุนกลุ่มฮามาส หากความขัดแย้งลุกลามบานปลายจนอิหร่านเข้าร่วมสงคราม ช่องแคบฮอร์มุซซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญในการขนส่งน้ำมันอาจได้รับผลกระทบ ดังที่อิหร่านได้เคยยึดเรือน้ำมันที่ผ่านช่องแคบ เนื่องจากความขัดแย้งที่มีต่อสหรัฐอเมริกามาแล้ว

 

ประเทศต่อมาที่ผู้คนในแวดวงน้ำมันกำลังให้ความสนใจ คือซาอุดีอาระเบีย ก่อนหน้านี้ ซาอุดีอาระเบียกำลังมีข้อตกลงกับสหรัฐอเมริกาในด้านการเพิ่มการผลิตน้ำมันในปีหน้า เพื่อช่วยเหลือราคาน้ำมันที่สูงขึ้น หากข้อตกลงนี้บรรลุผล สหรัฐอเมริกาอาจสามารถควบคุมราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นถึง 120 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในปีที่แล้วให้อยู่ที่ 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และซาอุดีอาระเบียก็จะได้รับผลประโยชน์ ทั้งด้านการสนับสนุนกองกำลังทางทหารจากสหรัฐอเมริกาฯ และการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับอิสราเอล อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ในครั้งนี้อาจส่งผลต่อการตัดสินใจของซาอุดีอาระเบีย และอาจทำให้ข้อตกลงครั้งนี้ไม่อาจบรรลุผลได้อย่างราบรื่น

 

แม้ว่าบรรดาผู้เชี่ยวชาญจะยังคงคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันอาจพุ่งสูงขึ้นในช่วงหนึ่งเท่านั้น หากสงครามสงบลง ราคาน้ำมัน การผลิตน้ำมัน รวมถึงการส่งออก อาจไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่หากสงครามครั้งนี้ลุกลามบานปลายจนกลายเป็นสงครามศาสนา ราคาน้ำมันท่ามกลางภาวะสงครามย่อมพุ่งสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งนี้ นอกเหนือจากซาอุดีอาระเบียและอิหร่านแล้ว ยังมีประเทศที่อยู่รายรอบอิสราเอลและปาเลสไตน์อีกมากมายที่ล้วนเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันด้วยกันทั้งสิ้น หากสงครามยังคงไม่สงบ น้ำมันของโลกย่อมได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน

 

น้ำมันของโลกได้รับผลกระทบที่ยิ่งใหญ่จากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อสงครามระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ปะทุขึ้น ทั่วโลกก็ต่างจับตามองความเป็นไปในแวดวงตลาดน้ำมันอีกครั้ง ไม่ว่าสงครามครั้งนี้จะจบลงอย่างไร เราคงได้แต่หวังว่าสงครามครั้งนี้จะไม่ลุกลามบานปลายจนส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมัน รวมถึงทำลายทั้งชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนไปมากกว่าที่เป็นอยู่

 

ลงทุนศาสตร์ – Investerest

ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , และ WEBSITE

 

อ้างอิง
[1] บีบีซี. (8 ตุลาคม 2566). เรารู้อะไรบ้าง จากสงครามครั้งใหม่อิสราเอล-ปาเลสไตน์ ทำคนไทยเสียชีวิต 2 ราย. สืบค้นจาก https://www.bbc.com/thai/articles/crg190lw099o
[2] Bill Alpert. (October 7, 2023). Israel-Hamas War Endangers Oil Market’s Hope for Saudi-Israeli Normalization Deal. Retrieved from https://www.barrons.com/articles/israel-hamas-war-oil-saudi-arabia-32c8a838
[3] Lee Ying Shan. (October 8, 2023). ‘Knee-jerk surge’: Oil experts predict market impact of Israel-Hamas conflict. Retrieved from https://www.cnbc.com/2023/10/08/israel-hamas-oil-experts-expect-knee-jerk-reaction-in-energy-markets.html
[4] Grant Smith. (October 8, 2023). As Israel War Rages, Oil Traders Are Focused on Iran. Retrieved from https://finance.yahoo.com/news/israel-war-rages-oil-traders-095536214.html

 

อัพเดทล่าสุดเมื่อ :

เกี่ยวกับผู้เขียน

ลงทุนศาสตร์

ผมเขียนบทความเกี่ยวกับการลงทุนตั้งแต่เบื้องต้น เหมาะสำหรับผู้ลงทุนหรือผู้ที่มีความสนใจที่จะลงทุนที่รักหรือมีทีท่าว่าจะรักในศาสตร์ของการลงทุนเหมือนกัน