สิทธิ์เสียงประชาชนกำหนดอนาคต ผลการเลือกตั้งปี 2024 ของไต้หวันบอกอะไรกับจีนและอเมริกา
การเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี ค.ศ. 2024 ของไต้หวันได้จบลงพร้อมกับชัยชนะของ William Lai Ching-te แห่งพรรค Democratic Progressive Party (DPP) ซึ่งนับเป็นชัยชนะ 3 ครั้งติดต่อกันของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า และเป็นสัญญาณอันดีของประชาธิปไตยที่ยังเหนียวแน่นมั่นคงในประเทศ อย่างไรก็ตาม เส้นทางของประธานาธิบดีคนใหม่ยังคงเต็มไปด้วยความท้าทาย เพราะการที่ประธานาธิบดีคนใหม่มาจากพรรคที่มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยและแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการจีน ย่อมส่งผลกระทบต่อจีน รวมไปถึงสหรัฐอเมริกาที่แสดงตัวหนุนหลังไต้หวันอยู่อีกด้วย ในครั้งนี้ ลงทุนศาสตร์ขอนำเสนอผลกระทบหลังจากการเลือกตั้งของไต้หวันที่มีต่อจีนและสหรัฐอเมริกา ดังนี้ [1, 2, 3, 4, 5]
“ไต้หวันกำลังบอกโลกทั้งใบ ว่าระหว่างประชาธิปไตยกับอำนาจนิยม ไต้หวันเลือกยืนข้างประชาธิปไตย” คือคำกล่าวที่ Lai Ching-te ประกาศในวันที่ได้รับชัยชนะ แน่นอนว่าการที่พรรค Democratic Progressive Party (DPP) ของไต้หวันชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ เป็นการส่งสัญญาณให้จีนและทั่วโลกได้เห็นว่าประชาชนในประเทศต้องการสานต่อแนวทางเดิมของประธานาธิบดี Tsai Ing-wen ที่ประกาศชัดในเอกราชของไต้หวันในฐานะประเทศที่เป็นประชาธิปไตย เป็นไต้หวันของโลก ไม่ใช่ไต้หวันของจีน
การส่งสัญญาณจากการเลือกตั้งครั้งนี้ นับเป็นการแสดงออกว่าคนไต้หวันไม่สนใจต่อคำขู่ของจีนที่ได้ประกาศไว้ก่อนการเลือกตั้งของไต้หวัน ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้นับเป็นทางเลือกระหว่างสงครามและสันติภาพ รวมถึงการประกาศว่าการรวมไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนนั้น นับเป็นการไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ทางประวัติศาสตร์ (historical inevitability) แต่ทั้งนี้ เมื่อผลการเลือกตั้งของไต้หวันไม่เป็นไปตามความต้องการของจีน ไต้หวันเองก็ต้องเตรียมรับมือกับพายุลูกใหญ่ที่อาจมาจากการจู่โจมของจีนโดยไม่ทันตั้งตัว เพราะไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร จีนก็ยังแสดงจุดยืนชัดเจนในความต้องการเข้าครอบครองไต้หวันอยู่ดี
ประธานาธิบดีคนใหม่ของไต้หวันต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก ในการรับมือต่อความกดดันระหว่างจีนและไต้หวัน จีนมีวิธีการมากมายที่สามารถจัดการกับไต้หวัน ในขณะที่ไต้หวันยังคงต้องรักษาความสัมพันธ์อันดีกับจีน พร้อม ๆ กับการหาทางป้องกันตนเองไม่ให้มีจุดอ่อน และแม้ผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการส่งสัญญาณถึงประชาธิปไตย และส่งไปถึงแนวโน้มในการกระชับความสัมพันธ์ที่มีอยู่แล้วกับอเมริกา แต่อเมริกาที่คอยหนุนหลังไต้หวันก็ยังคงต้องรักษาความสัมพันธ์กับจีนไว้เช่นกัน ดังนั้น ไต้หวันจึงอยู่ท่ามกลางความตึงเครียด โดยจะพลาดไม่ได้แม้แต่ก้าวเดียว
หนทางสู่การรักษาประชาธิปไตย รวมถึงอธิปไตยของประเทศไว้ให้ได้ยาวนานที่สุด อาจยังคงมีอุปสรรคมากมาย แต่อย่างน้อยการเริ่มต้นจากผลเลือกตั้งที่ประชาชนพากันใช้สิทธิอย่างเข้มแข็ง ไม่หวั่นกลัวต่อแรงกดดันของประเทศมหาอำนาจ ก็เป็นรากฐานที่แข็งแรงพอจะส่งเสริมให้ไต้หวันยังคงมีความหวังในเสรีภาพและสันติภาพต่อไป
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , และ WEBSITE
อ้างอิง
[1] Chris Panella. (January 13, 2024). Taiwan made its choice on who will lead it into an uncertain future as China remains hellbent on controlling it, and tough times may lie ahead. Retrieved from https://www.businessinsider.com/what-taiwans-election-results-mean-for-relations-with-china-us-2024-1
[2] Clement Tan. (January 13, 2024). ‘Taiwan is China’s Taiwan’: Beijing says Taiwan’s ruling party is not representative of popular opinion. Retrieved from https://www.cnbc.com/2024/01/13/china-reacts-to-pivotal-taiwan-presidential-election.html
[3] LAULY LI, CHENG TING-FANG, and KENJI KAWASE. (January 13, 2024). Lai Ching-te wins 3rd straight Taiwan presidential poll for ruling DPP. Retrieved from https://asia.nikkei.com/Politics/Taiwan-elections/Lai-Ching-te-wins-3rd-straight-Taiwan-presidential-poll-for-ruling-DPP
[4] Clement Tan. (January 13, 2023). China skeptic Lai Ching-te wins Taiwan’s presidential election. Retrieved from https://www.cnbc.com/2024/01/13/taiwan-2024-election-dpps-lai-ching-te-wins.html
[5] The Economist. (January 13, 2023). Defying China, Taiwan elects William Lai Ching-te as president. Retrieved from https://www.economist.com/asia/2024/01/13/defying-china-taiwan-elects-william-lai-ching-te-as-president
Credit Photo: Louise Delmotte
อัพเดทล่าสุดเมื่อ :