งานยอดนิยมสำหรับเด็กจบใหม่

ขึ้นชื่อว่างาน หลายคนอาจมองว่า ไม่ว่างานสุจริตใดก็ตาม ขอเพียงเราชอบ เชี่ยวชาญ และหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ ก็ถือเป็นงานที่ดีทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม งานบางงานในบางอุตสาหกรรมก็ร้อนแรงและ “ขาดแคลนคน” กว่างานอื่น ๆ

ทั้งนี้ LinkedIn ได้จับอันดับ 10 อาชีพที่ขาดแคลนคน และมีความต้องการจ้างงาน “เด็กจบใหม่” สูงขึ้น โดยโมนิกา ลูอิส ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการจัดการผลิตภัณฑ์ที่ LinkedIn เครือข่ายในการหางานหรือการฝึกงาน กล่าวว่าสำหรับคนที่กำลังหางาน “คุณต้องไปยังพื้นที่ที่ขาดแคลนคนและมีความต้องการคนอยู่เสมอ”

ขณะนี้เด็กจบใหม่และผู้ที่เพิ่งก้าวสู้วัยทำงาน หรือบางคนที่ยังเป็น First Jobber อยู่ ซึ่งมีประสบการณ์การทำงานประจำน้อยกว่า 4 ปี กำลังก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งขึ้นจากสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวกลับมาหลังจากเกิดการระบาดใหญ่ของโควิด-19

ซึ่งในปี 2022 นี้ แม้บรรยากาศการจ้างงานจะกำลังเผชิญกับความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับเงินเฟ้อและเสถียรภาพของเศรษฐกิจโลก แต่จำนวนการประกาศรับสมัครงานของ First Jobber บน LinkedIn ก็เพิ่มขึ้นเกือบ 17% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2022 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

สำหรับ 10 อันดับอาชีพที่ “จ้างงานเด็กจบใหม่มากที่สุด” จากการเก็บข้อมูลของ LinkedIn มีดังนี้
1. ตัวแทนฝ่ายพัฒนาการขาย (Sales Development Representative) อัตราจ้างงานเพิ่มขึ้น 191.7%
2. ตัวแทนฝ่ายพัฒนาธุรกิจ (Business Development Representative) อัตราจ้างงานเพิ่มขึ้น 178.1%
3. ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดหาผู้มีความสามารถ (Talent Acquisition Specialist) อัตราจ้างงานเพิ่มขึ้น 175.1%
4. ผู้ประสานงานการตลาด (Marketing Coordinator) อัตราจ้างงานเพิ่มขึ้น 55.3%
5. นักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analyst) อัตราจ้างงานเพิ่มขึ้น 42.6%
6. นักวิเคราะห์การเงิน (Financial Analyst) อัตราจ้างงานเพิ่มขึ้น 36.9%
7. ผู้ช่วยทนายความ (Legal Assistant) อัตราจ้างงานเพิ่มขึ้น 32.1%
8. ตัวแทนฝ่ายขายภายใน (Inside Sales Representative) อัตราจ้างงานเพิ่มขึ้น 31.4%
9. ผู้เชี่ยวชาญด้านปฏิบัติการ (Operational Specialist) อัตราจ้างงานเพิ่มขึ้น 30.1%
10. บาริสตา (Barista) อัตราจ้างงานเพิ่มขึ้น 25.%

ทั้งนี้สำหรับเด็กจบใหม่แล้ว ทักษะความสามารถด้านต่าง ๆ อาจไม่มีมากนัก เนื่องด้วยความขาดประสบการณ์ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไร้ซึ่งหนทางเลยทีเดียว

เพราะการเพิ่มคุณค่า พัฒนาทักษะ สามารถทำได้ควบคู่ไปกับการพยายามหางานประจำได้ เช่น ทักษะการบริหารเวลา, ทักษะความคิดสร้างสรรค์, ทักษะคิดวิเคราะห์, ทักษะการแก้ปัญหา, ทักษะการสื่อสาร, ทักษะการทำงานเป็นทีม, ทักษะความเข้าใจการใช้เทคโนโลยี, และทักษะการหางาน เหล่านี้จะทำให้ใบสมัครของคุณโดดเด่นออกมาจากคนที่จบการศึกษาพร้อมคุณ สร้างแต้มต่อในการหางานที่ใช่ได้มากขึ้น