สงครามยังไม่จบกระทบต่อธุรกิจ ผลกระทบ 3 ประการที่ธุรกิจต้องเผชิญจากสงครามอิสราเอล-ฮามาส

สงครามยังไม่จบกระทบต่อธุรกิจ ผลกระทบ 3 ประการที่ธุรกิจต้องเผชิญจากสงครามอิสราเอล-ฮามาส

สงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาสบนฉนวนกาซาสร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินของผู้คน ทั้งยังทำลายความสงบสุขและสันติภาพ แต่นอกจากความเดือดร้อนบนฉนวนกาซาแล้ว ความขัดแย้งที่ลุกลามบานปลายและไม่มีทีท่าว่าจะจบลงครั้งนี้ยังส่งผลเสียต่อธุรกิจหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนส่ง ธุรกิจร้านอาหาร หรือธุรกิจน้ำมันดิบ โดยผลกระทบที่ธุรกิจต่าง ๆ ได้รับจากสงครามแบ่งออกได้เป็น 3 ประการ ทั้งผลกระทบด้านการขนส่งสินค้าผ่านทะเลแดง ผลกระทบด้านราคาข้าวของที่พุ่งสูงขึ้น และผลกระทบจากการถูกบอยคอตเพราะการเลือกฝั่งในสงคราม [1, 2, 3]

ผลกระทบประการแรกที่ธุรกิจทั้งหลายล้วนได้รับ คือความลำบากเดือดร้อนในการใช้เส้นทางขนส่งผ่านน่านน้ำทะเลแดง เมื่อกลุ่มกบฏฮูตีออกตัวสนับสนุนฮามาส และประกาศโจมตีเรือสินค้าใดก็ตามที่แล่นผ่านเส้นทางทะเลแดงในช่องแคบบับเอลมันเดบ และอาจจะลุกลามไปถึงการปิดช่องแคบสำคัญอื่น ๆ การโจมตีของกลุ่มกบฏฮูตีส่งผลให้การขนส่งสินค้ามีความยากลำบากมากยิ่งขึ้น หากต้องการหลีกเลี่ยงการปะทะก็ต้องเดินเรือในเส้นทางใหม่ที่อ้อมไปไกลและทำให้เปลืองน้ำมัน เปลืองเวลา แต่หากเดินเรือผ่านเส้นทางเดิมก็ต้องเสี่ยงกับการถูกโจมตี

ผลกระทบประการต่อมา คือการขึ้นราคาของสินค้า สืบเนื่องจากผลกระทบแรกที่เกิดจากความลำบากในการขนส่งทางทะเลแดง ทำให้ต้นทุนในการขนส่งสินค้าพุ่งสูงขึ้น และส่งผลให้สินค้าทั้งหลายเริ่มมีราคาสูงขึ้น ซ้ำเติมวิกฤตเงินเฟ้อที่กำลังก่อปัญหาเศรษฐกิจขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก นับตั้งแต่เส้นทางเดินเรือทะเลแดงไม่ปลอดภัย ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้นทันทีร้อยละ 6 และหากสงครามยังคงยืดเยื้อ ราคาข้าวของที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในหลายประเทศที่ยังคงไม่ฟื้นตัวดีจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

ผลกระทบประการสุดท้าย คือการบอยคอตธุรกิจทั้งหลายที่สนับสนุนอิสราเอล แบรนด์ดังทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจกาแฟชื่อดังอย่าง Starbucks หรือแบรนด์จากบริษัทในเครือ Yum! ซึ่งได้แก่ KFC, Pizza Hut และ Taco Bell ต่างก็ถูกบอยคอตจากกลุ่มประเทศตะวันออกกลางและประเทศมุสลิมทั่วโลก จากการออกตัวสนับสนุนอิสราเอลอย่างชัดเจน นอกจากยอดขายของบริษัทจะร่วงตกลงอย่างเห็นได้ชัด ภาพลักษณ์ของบริษัทที่เสียหายเพราะสงครามก็ยังยากที่จะกู้คืนกลับมา

สงครามที่ยืดเยื้อสร้างความเสียหายให้แก่ธุรกิจอย่างมหาศาล ทั้งทำลายความปลอดภัยในการขนส่งสินค้า ทำให้ข้าวของมีราคาแพง และส่งผลต่อภาพลักษณ์ของธุรกิจ และที่สำคัญ สงครามยังทำลายชีวิตและทรัพย์สินของคนบริสุทธิ์ และทำลายความสงบสุขของผู้คนทั่วโลก ไม่ว่าสงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาสจะจบลงอย่างไร ลงทุนศาสตร์หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความขัดแย้งครั้งนี้จะไม่ลุกลามบานปลายจนเกินควบคุม และขอให้สันติภาพกลับคืนมาสู่โลกใบนี้ได้ในสักวัน