ลงทุนอย่างไร หากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3

สงครามโลกครั้งที่ 3 หรือ WWIII กำลังกลายเป็นประเด็นร้อนแรง หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิปดีสหรัฐอเมริกา เปิดฉากลอบสังหารผู้นำทางทหารคนสำคัญของประเทศอิหร่าน จนประเทศอิหร่านบอกว่า นี่เป็นการประกาศสงคราม และปัจจุบัน อิรักก็ประกาศให้ทหารของสหรัฐอเมริกาออกจากประเทศแล้ว คำถาม คือ ในมุมมองของนักลงทุนคนหนึ่ง เราควรจะรับมือกับความไม่แน่นอนอย่างไรดี ถึงแม้ว่าจะดูแห้งแล้งไปเสียบ้าง แต่การทำความเข้าใจและรับมือต่อภาวะสงครามก็เป็นสิ่งสำคัญที่นักลงทุนต้องเรียนรู้

1) ปรับพอร์ต นำเงินเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย

จากข้อมูลในอดีตที่ผ่านมา ภาวะสงครามถือเป็นช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนสูง บางช่วงในสงคราม ตลาดหุ้นก็ตกอย่างรุนแรง บางช่วงในสงคราม ตลาดหุ้นก็อาจจะกลับมาเป็นขาขึ้นได้ ดังนั้น การพยายามจะทำนายตลาดไม่ใช่เรื่องง่าย หากไม่มั่นใจจะถือสินทรัพย์เสี่ยง การหันมาลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น เงินฝากธนาคารดอกเบี้ยสูง พันธบัตรรัฐบาล ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี

2) นำเงินเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์ที่น่าจะได้ประโยชน์จากสงคราม

สินค้าจำพวกสินค้าโภคภัณฑ์ มักจะมีการปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่นในภาวะสงคราม กลุ่มแรก คือ น้ำมันดิบ ราคาของน้ำมันดิบมักจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงสงคราม เพราะว่าน้ำมันเป็นวัตถุดิบสำคัญที่นำไปใช้ทางการทหาร รวมไปถึงความไม่แน่นอนแถบตะวันออกกลางมักจะส่งผลอัตราการผลิต และการส่งออกน้ำมันด้วย

สินค้าอีกกลุ่มหนึ่งที่โดดเด่น คือ ทองคำ ทองคำจัดเป็น Safe Heaven ที่นักลงทุนมักจะเข้าลงทุนในยามที่ตลาดการเงิน และตลาดหุ้นผันผวนอย่างหนัก ยกตัวอย่างเช่น ช่วงสงคราม ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ราคาทองคำมักจะปรับตัวขึ้นดี อย่างที่เห็นได้ชัดก็อย่างตอน วิกฤต Brexit ที่ผ่านมา

3) ลงทุนในบริษัทที่ได้ประโยชน์จากสงคราม

การทำสงครามช่วยสร้างประโยชน์เชิงเศรษฐกิจให้กับบริษัทบางบริษัทด้วย หากใครอยากเห็นภาพให้ชัดเจน อยากให้ลองอ่านหนังสือ Addicted to War ของ Joel Andreas หรือที่แปลเป็นไทยในชื่อ อเมริกาบ้าสงคราม ที่แปลโดย จณัญญา เตรียมอนุรักษ์ ที่บางช่วงบางตอนของหนังสือเล่มนี้ บอกถึงประโยชน์ของกลุ่มทุนที่ได้รับจากการทำสงครามเป็นอย่างดี

หุ้นที่ได้รับประโยชน์จากสงครามส่วนใหญ่จะอยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ทำธุรกิจเกี่ยวกับสงคราม เช่น ผลิตยุทโธปกรณ์ในการรบ เช่น เครื่องบิน อาวุธสงคราม เป็นต้น ยกตัวอย่างหุ้นกลุ่มนี้ เช่น Lockheed Martin Corp , Boeing , Raytheon เป็นต้น

การทำสงครามเป็นสิ่งที่โหดร้าย และป่าเถื่อน นักลงทุนไม่ควรแสวงหาผลประโยชน์จากการสงครามเป็นอาชีพ อย่างไรก็ตาม การวางแผนปกป้องความมั่งคั่งส่วนบุคคลของตนเองก็เป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้น การวางแผนรับมือกับภาวะสงครามก็ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้เลย

แต่ก็อย่าตื่นตูมจนมากเกินไป บางสงครามแทบจะไม่ส่งผลต่อตลาดหุ้นไทยเลยก็มี