คนเหงากลายเป็นกลุ่มคนที่มีอิทธิพลกับประเทศไทยอย่างมากในเชิงการตลาด โดยวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) ได้เปิดเผยในงานวิจัยเรื่อง การตลาด Lonely in the Deep : เจาะลึกตลาดคนเหงา ว่า ประเทศไทยมีคนเหงาสูงมาก คนไทย 26.75 ล้านคนเป็นคนเหงา หรือเทียบเท่ากับ 40.4% ของประชากรทั้งประเทศ
ผลการสำรวจความเหงาของคนไทยก็ถือว่าน่าสนใจ
กลุ่มวัยเรียน อายุ 18 – 22 ปี เหงา 41.8%
กลุ่มวัยทำงาน อายุ 23 – 40 ปี เหงา 49.3%
กลุ่มวัยผู้ใหญ่ อายุ 41 – 60 ปี เหงา 33.6%
กลุ่มวัยผู้สูงอายุ อายุมากกว่า 60 ปี เหงา 24.5%
ผู้สูงอายุวัยเกษียณที่คาดว่าจะเหงามากที่สุด กลับมีความเหงาน้อยที่สุด ส่วนกลุ่มผู้ใหญ่วัยมีครอบครัวก็ไม่ค่อยเหงาเช่นกัน กลับกลายเป็นว่า วันเรียนและวัยทำงานเป็นวัยที่เหงามากที่สุด โดยงานวิจัยยังชี้อีกว่า ยิ่งรายได้น้อย หรือ มีภาระทางการเงินมาก จะยิ่งเหงามาก เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิต ไม่สามารถไปเที่ยวนอกบ้าน ไม่สามารถใช้ของที่อยากใช้ เพราะต้องเก็บเงินไว้ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ อยู่แต่บ้าน เหล่านี้นำไปซึ่งความเหงาทั้งสิ้น
กิจกรรมยอดฮิตของคนเหงา ได้แก่ เล่นโซเชียล ไปร้านอาหาร และช้อปปิ้ง
พฤติกรรมเหล่านี้นำมาซึ่งโอกาสทางธุรกิจมากมาย อย่างที่เราได้เห็นธุรกิจแปลกใหม่ ซึ่งต่างก็ออกมาตอบสนองต่อกลุ่มเหงา แบบตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจทั้งสิ้น
ธุรกิจ co-working space ที่ไม่ให้เราทำงานหรืออ่านหนังสืออยู่บ้านคนเดียวแบบเหงาๆ ธุรกิจไอดอลอย่าง BNK48 ก็เกิดมาเอาใจคนเหงา เติมพลังเติมแรงใจ และมีส่วนร่วมกับดารานักร้องแบบสัมผัสได้ คาเฟ่สัตว์เลี้ยงก็ตอบสนองต่อคนเหงา คนจำนวนมากไม่สามารถเลี้ยงสัตว์เพราะติดปัญหาต่างๆ ก็สามารถมาคลายเหงากับสัตว์เลี้ยงชั่วคราวที่คาเฟ่สัตว์ได้ หรือแม้กระทั่งร้านบอร์ดเกม ร้านคาเฟ่ที่ให้คนมานั่งเล่นเกมกัน ก็จัดว่าเป็นกิจกรรมที่ช่วยคลายความเหงาได้ดี
ความเหงาจึงกลายเป็นห้วงตลาดขนาดใหญ่ที่เรียกว่า ตลาดความเหงา
ธุรกิจสมัยใหม่จึงจำเป็นต้องออกแบบธุรกิจมาเพื่อคำนึงถึงกลุ่มคนเหงาเหล่านี้ด้วย เพราะกลุ่มตลาดนี้ใหญ่มาก และมีกำลังซื้อในตัวเอง โดยเฉพาะคนวัยทำงานที่มีมักจะมีกำลังซื้อสูงสุด และต่างก็มีความเหงาสูงสุดในทุกช่วงวัยไปด้วยในเวลาเดียวกัน
จากที่ประเทศไทยกำลังมุ่งเส้นทางธุรกิจไปรองรับ เทรนด์ผู้สูงอายุ ที่คาดว่าจะมีผู้สูงอายุมากกว่า 20% ของจำนวนประชากรในไม่กี่ปี ตอนนี้กลายเป็นว่า เทรนด์คนเหงากลายเป็นความน่าสนใจเสียยิ่งกว่า เพราะคนกลุ่มนี้มีจำนวนมากกว่า 40% และมีกำลังซื้อสูง พร้อมจะจ่ายเงินเพื่อซื้อประสบการณ์หรือความสุขจากกิจกรรมต่างๆ เพื่อลดทอนความเหงาในจิตใจตนเอง
เหงา, เราทุกคนต่างก็เหงา, เหงาไม่ต่างกัน
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , OFFICIAL LINE และ WEBSITE
พิเศษ! เข้ากลุ่มเรียนหุ้นออนไลน์ฟรีกับลงทุนศาสตร์แบบไม่มีเงื่อนไขได้ที่ : เรียนหุ้นฟรีกับลงทุนศาสตร์
อัพเดทล่าสุดเมื่อ :