Patch Adams จากผู้ป่วยโรคซึมเศร้าสู่นายแพทย์ผู้สร้างเสียงหัวเราะ
โรคซึมเศร้าเป็นอีกโรคหนึ่งที่สร้างความทุกข์ทรมานต่อคนไข้ทั้งในทางร่างกายและจิตใจ บางรายเลือกที่จะจบชีวิตตนเองลง เพียงเพื่อจะได้พ้นจากสภาวะอันทุกข์ทรมานของโรคที่เป็นอยู่ และมีเพียงไม่กี่คน ที่แม้จะประสบปัญญากับโรคซึมเศร้า แต่ยังคงพยายามต่อสู้จนสามารถเปลี่ยนตัวเองให้กลับมามีพลังชีวิตอีกครั้ง Patch Adams เป็นอีกหนึ่งบุคคลที่ต่อสู้กับสภาพจิตใจและเปลี่ยนจากสถานะผู้ป่วยมาเป็นแพทย์ผู้โอบอ้อมอารีและพร้อมจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือผู้คนอีกหลายชีวิต
Adams เกิดวันที่ 28 พฤษภาคม 1945 ในวอชิงตันดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา วัยเด็ก Adams ต้องโยกย้ายโรงเรียนและที่อยู่อาศัยตามคุณพ่อที่เป็นนายทหารของกองทัพสหรัฐซึ่งร่วมรบในสงครามเกาหลี เมื่อ Adams อายุได้ 16 ปี คุณพ่อได้เสียชีวิตลง Adams และคุณแม่จึงเดินทางกลับมาใช้ชีวิตที่สหรัฐอเมริกาอีกครั้ง Adams ได้เข้าเรียนที่โรงเรียน ซึ่ง ณ ที่นั้นเขาถูกกลั่นแกล้งอยู่เป็นประจำ จากเพื่อนอันธพาลในชั้นเรียน ในที่สุดเขาก็ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอย่างรุนแรงจากสภาวะกดดันและถูกกลั่นแกล้ง เขาพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้งแต่ไม่เป็นผลและในที่สุดเขาจึงตัดสินใจเข้ารับการรักษาอาการโรคซึมเศร้าในโรงพยาบาลโรคประสาท
ขณะที่ Adams เข้ารับการการรักษาโรคซึมเศร้า เขาได้พบกับรูมเมทที่มีอาการทางประสาทไม่กล้าเข้าห้องน้ำเพราะกลัวกระรอก Adams ได้ให้ความช่วยเหลือและทำให้เขาสามารถเข้าห้องน้ำเองได้โดยไม่ต้องกลัวกระรอกอีกต่อไป เหตุการณ์นั้นเองที่ทำให้ Adams ได้รับรู้และพบกับความจริงว่า ยังมีผู้คนอีกมากมายที่ต้องเผชิญกับปัญหาที่หนักหนากว่าเขามากมายนัก และการฆ่าตัวตายนั้น ไม่ใช่ทางออกของปัญหาอย่างแท้จริง หากแต่การมีชีวิตอยู่เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นต่างหากเป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุดในชีวิต เพราะเหตุนี้เองเขาจึงตั้งมั่นที่จะมีชีวิตอยู่ เพื่อช่วยเหลือผู้คนที่มีอาการป่วยทั้งทางร่างกายและจิตใจ
หลังจากที่ Adams ได้ออกจากโรงพยาบาลโรคประสาท เขาเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยแพทย์ ด้วยความมุ่งหวังเพื่อจะเป็นแพทย์ที่จะยื่นมือให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยทั้งทางร่างกายและจิตใจ แต่ทว่าเส้นทางการเป็นแพทย์ของเขาไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด สังคมการแพทย์ซึ่งดูสูงส่งนั้นกลับไม่เป็นไปอย่างที่เขาเคยคิด หากแต่เขาได้พบกับสังคมของความเห็นแก่ตัว การเอารัดเอาเปรียบ ความยโสโอหัง การดูถูกเหยียดหยามและการไว้ตัวตามอาชีพแพทย์ ซึ่ง Adams มองว่าสิ่งเหล่านั้นเปรียบเสมือนกำแพงที่สร้างมาเพื่อกั้นไว้ระหว่างแพทย์และคนไข้ Adams จึงแหกกฎของสถาบันการแพทย์แทบจะทุกข้อ ด้วยการที่มักจะโดดเรียนเพื่อไปพบปะผู้คนแปลกหน้านอกมหาวิทยาลัย เพื่อพูดคุยและรับฟังปัญหา หรือแม้กระทั่งลักลอบเข้าไปพบผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาพยาบาล Adams ไปเยี่ยมเยียนพูดคุยและสร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ป่วยอย่างที่ไม่เคยมีแพทย์คนไหนเคยทำมาก่อน ซึ่งส่งผลให้คนไข้มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นและบางรายก็ยังหายป่วยเร็วขึ้นอีกด้วย หรือแม้กระทั่งกับคนป่วยที่ใกล้ตาย เขาก็ให้ความสำคัญกับคนไข้เหล่านี้เช่นกัน เพียงเพื่อให้เขาจากไปโดยไม่ต้องทรมานมากนักโดยใช้เสียงหัวเราะและคำปลอบโยนของเขาเป็นดั่งยาแก้ปวด
การกระทำของ Adams นั้นสร้างความไม่พอใจให้แก่เพื่อนร่วมรุ่นบางคนและเหล่าคณาจารย์ทางการแพทย์
แต่ในด้านของผลการเรียน Adams กลับได้คะแนนสูงจนเป็นที่หนึ่งของรุ่น ด้วยความไม่พอใจของเพื่อนบางคนและคณาจารย์บางท่าน พวกเขาได้หาทางกลั่นแกล้งให้ Adams โดนไล่ออกจากมหาวิทยาลัย แต่เขาก็ไม่ได้ละความพยายามในการเป็นแพทย์ลง เขาแอบเปิดโรงพยาบาลของตนเองอย่างลับๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่ต้องการการเยียวยาทั้งทางร่างกายและจิตใจ ที่ไม่อาจจะทนรับกับระบบการให้บริการทางด้านการแพทย์และความเข้มงวดของระบบโรงพยาบาลได้
แต่เหมือนโชคชะตาเล่นตลก Adams เจอมรสุมครั้งใหญ่อีกครั้ง เมื่อเขาถูกเสนอชื่อต่อสภาแพทย์แห่งรัฐ
ให้ถูกไล่ออกและหญิงสาวอันเป็นที่รักถูกคนไข้ที่มีอาการทางจิตฆ่าตายอย่างน่าสงสาร ด้วยมรสุมและปัญหาที่เกิดขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่านั้นเองได้ทำร้ายจิตใจของ Adams อย่างรุนแรงทำให้เขาหวนคิดที่จะกลับมา
ฆ่าตัวตายอีกครั้ง แต่เขากลับฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าหากเขาฆ่าตัวตายเท่ากับว่าเขาเป็นฝ่ายยอมแพ้ต่อปัญหาและอุปสรรค เขาจึงลุกขึ้นสู้อีกครั้งเพื่อหวังที่จะเป็นนายแพทย์ที่ดีที่สุดที่โลกนี้เคยมีมา
ในวันที่ Adams เข้าสู่กระบวนการไต่สวนของสภาแพทย์แห่งรัฐ เขายืนหยัดบนหลักการของตัวเองว่า การจะเป็นแพทย์ที่ดีนั้น มิใช่ว่าจะต้องมีการศึกษาที่สูงส่งหรือใช้เพียงกระบวนการรักษาทางร่างกายเท่านั้น หากแต่แพทย์จะต้องรักษาคนไข้ที่จิตใจด้วยคุณธรรมความเห็นอกเห็นใจ พร้อมที่จะช่วยเหลือรักษาคนไข้ทุกคนด้วยความจริงใจ ภารกิจของหมอไม่ควรมีแค่รักษาผู้ป่วยเท่านั้นหากแต่ต้องพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยไปด้วยแต่ก็ต้องยอมรับในกฎเกณฑ์ทางธรรมชาติว่า ทุกชีวิตล้วนต้องจากไปในสักวันหนึ่ง จึงขอให้แพทย์ทุกคนอย่ายึดติดกับความรู้ที่มี อย่าเอาแต่แข่งขันกันทำผลการเรียนให้ออกมาสูง เพราะผลการเรียนไม่ได้เป็นตัวชี้วัดถึงการเป็นแพทย์ที่ดี หากแต่ควรเปิดใจให้กว้างยอมรับธรรมชาติของการมีอยู่และจากไป สิ่งเหล่านี้ต่างหากคือหัวใจของการรักษาเยียวยาผู้ป่วยอย่างแท้จริง
ด้วยเหตุผลนี้แพทย์สภาของรัฐจึงยังคงให้สิทธิ์ Adams ศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยแพทย์จนจบ และได้กลายมาเป็นแพทย์ผู้ที่เยียวยารักษาผู้ป่วย ผู้ด้อยโอกาส ในที่ต่างๆของโลกด้วยวิชาชีพแพทย์และอารมณ์ขันตามแนวทางของตนเอง ปัจจุบัน Adams ได้ก่อตั้งโรงพยาบาล Gesundheit ในเวสต์เวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา เพื่อรักษาเยียวยาคนไข้ที่ด้อยโอกาส ยากจน โดยไม่มีการคิดค่าใช้จ่าย และยังเป็นสถานที่ฝึกงานของนักเรียนแพทย์เพื่อสร้างประสบการณ์ในการรักษาคนไข้ และมีแพทย์มากกว่า 15,000 คน เสนอชื่อตัวเองมาเป็นแพทย์ ณ โรงพยาบาลแห่งนี้โดยไม่ขอรับเงินเดือน
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , OFFICIAL LINE และ WEBSITE
พิเศษ! เข้ากลุ่มเรียนหุ้นออนไลน์ฟรีกับลงทุนศาสตร์แบบไม่มีเงื่อนไขได้ที่ : เรียนหุ้นฟรีกับลงทุนศาสตร์
อ้างอิง
https://www.thefamouspeople.com/profiles/patch-adams-6146.php
https://th.theplanetsworld.com/8104-would-real-patch-adams-please-stand-up
https://www.chasingthefrog.com/reelfaces/patchadams.php
อัพเดทล่าสุดเมื่อ :