สงครามอะโวคาโด | ลงทุนศาสตร์ Investerest.co

สงครามอะโวคาโด

อะโวคาโด ผลไม้สีเขียวเข้ม รสมัน ราคาสูง ที่ถูกโฆษณาว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพชั้นดีเหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัวนี้ คงเป็นส่วนประกอบหลักในอาหารหรือเครื่องดื่มสุดโปรดของใครหลายคน แต่ใครจะล่วงรู้ว่าลึกเข้าไปในอุตสาหกรรมอะโวคาโดระดับโลก กลับมีทั้งปัญหามาเฟียท้องถิ่น ปัญหาการช่วงชิงทรัพยากรทางธรรมชาติ และปัญหาสิ่งแวดล้อมซุกซ่อนอยู่ภายใน

ในแต่ละปี ประชากรทั่วโลกบริโภคอะโวคาโดมากกว่าห้าพันล้านกิโลกรัม อะโวคาโดเป็นสินค้าทำเงินที่ทรงพลัง ผลไม้ธรรมดานี้ ขับเคลื่อนประเทศเม็กซิโกด้วยมูลค่ากว่า 2,500 ล้านดอลลาร์ต่อปี มีคำเรียกขานผลไม้นี้ว่าเป็น “ทองคำเขียว” แต่สำหรับชาวสวน เม็ดเงินมูลค่ามหาศาลนี้ดึงดูดบางสิ่งเข้าหาพวกเขา การรีดไถ การฆาตกรรม และการกดขี่ ตามเรามาดูในสารคดีเรื่อง เปิดโปงโลกเบื้องหลังครัว ตอน “สงครามอะโวคาโด” (Netflix) กัน

จุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา ธุรกิจอะโวคาโดเติบโตอย่างช้า ๆ แต่ต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงยุค 70 อะโวคาโดถูกโปรโมทว่าเป็นของหรูหรา เป็นส่วนประกอบหายากสำหรับพ่อครัวแม่ครัวผู้ช่ำชอง เป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพ และมันได้ผล ในปี 1998 พื้นที่สวนอะโวคาโดราคาพุ่งขึ้นถึง 27% ที่ดินบางส่วนถูกไถกลบเพื่อนำมาสร้างที่อยู่อาศัย ดังนั้นจึงดูเหมือนว่าอุปทานอะโวคาโดจะลดลงในอนาคต ในขณะที่อุปสงค์ของชาวอเมริกันกลับเพิ่มปริมาณอย่างต่อเนื่อง สหรัฐฯ ที่ปิดชายแดนเพื่อปกป้องชาวสวนในประเทศจากเม็กซิโกประเทศต้นกำเนิดอะโวคาโด ที่สามารถให้ผลผลิตคุณภาพดีในราคาที่ถูกกว่าเท่าตัวมานานหลายสิบปี จึงทำการตัดสินใจเปิดพรมแดนเพื่อนำเข้าอะโวคาโดจากนอกประเทศในที่สุด ชาวสวนอเมริกาต่อต้านเหตุการณ์นี้ แต่เรื่องกลับไม่เลวร้ายอย่างที่พวกเขาคิด อะโวคาโดจากเม็กซิโกช่วยอุดช่องว่างของฤดูกาลเพาะปลูกในอเมริกา ผู้บริโภคจึงสามารถหาซื้ออะโวคาโดได้ทั้งปีจากที่แต่เดิมหาได้เฉพาะภายในฤดูกาลเท่านั้น ทำให้อัตราการบริโภคอะโวคาโดยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ณ รัฐมิโชอากัง ประเทศเม็กซิโก รัฐแรกที่ผ่านมาตรฐานอนามัยของสหรัฐฯ ได้ทั้งหมด จึงกลายสภาพเป็นเมืองหลวงอะโวคาโดของโลกในเวลาต่อมา 1 ใน 5 ตำแหน่งงานของคนที่นี่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับอุตสาหกรรมอะโวคาโด รัฐนี้ให้ผลผลิตเกือบถึง 1 ใน 3 ของการบริโภคอะโวคาโดทั่วโลก แต่ลาภลอยก็มาพร้อมกลิ่นเลือด อะโวคาโดสร้างเม็ดเงินที่สูง จนดึงดูดความรุนแรงและการทุจริต ชาวสวนที่ประสบความสำเร็จถูกลักพาตัว เกิดการเรียกค่าไถ่ การอุ้มหาย และการจับญาติพี่น้องเพื่อรีดไถค่าคุ้มครองจากมาเฟียภายในพื้นที่ที่ผันตัวมาจากวงการยาเสพติด น่าเศร้าที่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐบางส่วนให้การสนับสนุนผู้มีอิทธิพลเหล่านี้

เหตุการณ์นี้ทำให้เกษตรกรบางรายยังเป็นหนี้จากการกู้เงินเพื่อจ่ายค่าไถ่มาจนถึงปัจจุบัน ในที่สุด ชาวสวนที่ถูกกดอยู่ใต้ความหวาดกลัวเป็นเวลานานหลายปีตัดสินใจก่อตั้งกองกำลังเพื่อป้องกันตัวเองด้วยเม็ดเงินที่ได้มาจากอะโวคาโด นี่ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดในระยะยาวสำหรับเรื่องนี้ แต่นี่คือหนทางเดียวที่พวกเขาสามารถทำได้เพื่อปกป้องตัวเอง และเป็นเครื่องยืนยันความล้มเหลวที่ชัดเจนของผู้ควบคุมกฎหมายในพื้นที่

นอกจากปัญหาด้านอาชญากรรมแล้ว อะโวคาโดยังสร้างปัญหาให้กับพื้นที่เพาะปลูกอื่นอีกหลายแห่ง สามารถติดตามต่อได้ในบทความตอนต่อไป -“ทองคำเขียว” ผลไม้ที่เป็นทั้งพรจากสวรรค์และคำสาป-