บริษัทจะป้องกันการลาออกของพนักงานจำนวนมาก (High Turnover Rate) ได้อย่างไร
การเปิดรับสมัครคนเข้ามาทำงานใช้ทรัพยากร ทั้งเวลา เงินทุน และบุคลากรที่ต้องร่วมด้วยช่วยกันทำให้ระบบการรับสมัครจนถึงการได้พนักงานคนใหม่มาเข้าทำงานในองค์กร ในขณะเดียวกัน การลาออกก็ใช้ทรัพยากรเช่นกัน ในแง่นี้หมายรวมไปถึงเวลาที่จะต้องเสียไปกับการฝึกพนักงานคนใหม่ การเสียคนที่รู้เนื้องานและเริ่มปรับตัวกับการทำงานได้แล้ว ดังนั้นการลาออกของพนักงานจึงส่งผลต่อค่าใช้จ่ายของบริษัทโดยตรง
การลาออกหรือสถานการณ์ที่พนักงานอยู่ทำงานไม่นานนั้นเป็นปัญหาหลักของบริษัทไม่ว่าจะเล็กจะใหญ่ ก่อนที่เราจะไปพูดถึงวิธีป้องกันไม่ให้เกิดปัญหานี้ ลองมาทำความเข้าใจกันดูก่อนว่า Turn Over คืออะไร
การจะคิดอัตราการ Turn Over หรือที่เรียกกันง่าย ๆ ว่าการลาออก สามารถคิดได้เบื้องต้นโดยกำหนดกรอบระยะเวลาในการสำรวจ แล้วดูว่าในช่วงเวลานั้น ๆ มีพนักงานลาออกมากน้อยเพียงใด โดยบริษัทหลาย ๆ แห่งมักจะกำหนดระยะเวลาในกรอบช่วงหนึ่งปี
หากบริษัทเผชิญกับสภาวะที่คนทำงานลาออกจากงานเยอะ ต้องรับสมัครคนเข้าทำงานใหม่ และแนวโน้มของพนักงานใหม่ก็ดูเหมือนจะอยู่ไม่นาน สภาวการณ์แบบนี้เป็นสัญญาณสำคัญที่กำลังบอกบริษัทว่า มันมีปัญหาอยู่สักที่ เราจำเป็นจะต้องหาทางแก้ไข
เหตุผลที่ก่อให้เกิด High Turn Over Rate นั้นมาจากหลายปัจจัย โดยมีตัวอย่างดังนี้
- ไม่มีโอกาสในการเติบโตในหน้าที่การงาน
- ความรู้สึกหมดไฟ หรือทำงานหนักเกินไป
- ไม่มีการฟีดแบค หรือให้ความสำคัญกับงานที่ทำสำเร็จ
- ความไม่สมดุลของเวลาในการใช้ชีวิตและเวลาทำงาน
- ความลำเอียง
- คนที่ได้งานใหม่ที่อื่น ซื้อตัวด้วยเรทเงินเดือนที่แพงกว่าเดิม
- ความรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมเมื่อเกิดความขัดแย้งในบริษัท
- หรือแม้กระทั่ง ภาวะต่าง ๆ หรือเหตุการณ์ในชีวิตของคนทำงานแต่ละคน
แล้วอย่างนี้ บริษัทจะทำอะไรได้บ้าง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิด High Turn Over Rate หรือถ้าเกิดแล้ว จะลดผลกระทบในแง่ลบอย่างไร
- ให้พนักงานเป็นส่วนหนึ่งกับวัฒนธรรมการให้และรับ Feedback: ทำให้พนักงานรู้สึกสามารถแสดงความเห็นได้อย่างอิสระและความเห็นของพวกเขาถูกรับฟังจริง ๆ และพนักงานจะอยากมีส่วนร่วมในการตัดสินใจต่อเรื่องที่กระทบกับงานและทิศทางของบริษัทอีกด้วย
- ให้แรงจูงใจ และให้การชื่นชมและขอบคุณกับพนักงาน: หากเราได้รับการชื่นชมยอมรับจากผู้อื่น แล้วเราก็จะส่งต่อสิ่งนี้ให้คนอื่นเช่นกัน ดังนั้นการให้ความสำคัญกับพนักงานจะช่วยเสริมคุณค่าขององค์กร ผลักดันพนักงาน และสร้างให้วัฒนธรรมองค์กรแข็งแรง
- สร้างสมดุลชีวิตและการทำงาน (Work-life balance): พนักงานไม่ได้ใช้ชีวิตเพื่อการทำงานอย่างเดียว ทุกคนมีชีวิตที่นอกเหนือจากงานด้วย และพวกเขาต้องการให้หัวหน้าตระหนักเรื่องนี้ หากบริษัทเข้าใจและตระหนักถึงประเด็นนี้จะช่วยให้พนักงานมีความเครียดจากทำงานน้อยลงและลดโอกาสหมดไฟในการทำงานด้วย
- จัดโปรแกรมพัฒนาและฝึกฝน: พัฒนาบุคลากรเพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานได้เพิ่มพูนทักษะและศักยภาพในการทำงาน เพื่อสร้างแรงจูงใจและรักษาพวกเขาให้คงอยู่ในองค์กรต่อไป
- จูงใจด้วยโปรแกรมดูแลคุณภาพชีวิตของพนักงาน เช่น ส่วนลดสมาชิกฟิตเนส ค่าสมาชิกรายเดือนของบริการหรือสื่อบันเทิงที่พนักงานสนใจ เป็นต้น
การดูแลพนักงานนั้นสำคัญกว่าที่คิด เพราะคนทำงานไม่ใช่เครื่องจักรที่ทำงานได้หามรุ่งหามค่ำโดยมีอัตราการผลิตงานเท่าเดิม คนทำงานคือมนุษย์ที่ถ้าได้รับการสนับสนุนอย่างเหมาะสมก็เจริญก้าวหน้าได้รวดเร็ว ในขณะที่หากอยู่ในที่ที่ไม่เหมาะสมก็อาจทำได้ตัดสินใจลาออกได้ง่าย ๆ บริษัทที่มีวิสัยทัศน์พัฒนาและดูแลพนักงานที่ดีก็จะได้ประโยชน์จากคนทำงานที่มีประสบการณ์ แต่ไม่ต้องเสียเงินเสียเวลากับการรับสมัครคนใหม่ด้วย
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , OFFICIAL LINE และ WEBSITE
พิเศษ! เข้ากลุ่มเรียนหุ้นออนไลน์ฟรีกับลงทุนศาสตร์แบบไม่มีเงื่อนไขได้ที่ : เรียนหุ้นฟรีกับลงทุนศาสตร์
อ้างอิง
Happily.ai, 5 กลยุทธ์ในการรักษาพนักงานที่ได้ผลที่สุดในปี 2022, อ้างอิงจาก https://blog.happily.ai/th/5-most-effective-employee-retention-strategies-for-2022-th/
HRProfilingSolutions, Employee Turnover, Causes Effects and Strategies, Retrieved from https://www.hrprofilingsolutions.com.au/blogs/aus-blog/employee-turnover-causes-effects-strategies/
SmallBusiness.chron.com, The negative impacts of the high turnover rate, Retrieved from https://smallbusiness.chron.com/negative-impacts-high-turnover-rate-20269.html
อัพเดทล่าสุดเมื่อ :