ธุรกิจ

Mark Constantine อดีตเด็กชายไร้บ้านสู่นักธุรกิจผู้อยู่เคียงข้างสังคม

Mark Constantine อดีตเด็กชายไร้บ้านสู่นักธุรกิจผู้อยู่เคียงข้างสังคม

Mark Constantine อดีตเด็กชายไร้บ้านสู่นักธุรกิจผู้อยู่เคียงข้างสังคม

 

ท่ามกลางการเติบโตของธุรกิจเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม LUSH เป็นอีกแบรนด์ที่กำลังแข่งขันอยู่บนเส้นทางสายนี้ด้วยแนวทางที่แตกต่าง ผลผลิตที่ออกจากโรงงานของพวกเขาสดใหม่ ราวกับสินค้าโฮมเมดที่พึ่งทำเสร็จจากหลังบ้าน รูปลักษณ์ก็ดูน่ากินราวกับก้อนเค้กสีหวานที่วางกองรวมกันอยู่บนชั้นสินค้าที่จัดแต่งตามอารมณ์ของผู้จัดวางแต่ก็ดูสนุกสนานราวกับส่วนผสมที่ถูกสาดลงโถผสมวัตถุดิบ และแน่นอน สินค้าของ LUSH ส่งเสริมและให้ความสำคัญด้านจริยธรรมมาโดยตลอดที่เริ่มก่อตั้งแบรนด์ ตามที่ Mark Constantine ผู้ก่อตั้งได้ตั้งใจไว้

 

Mark เคยเป็นเด็กชายที่น่าสงสาร เขาเติบโตขึ้นมาโดยไม่มีพ่อ เขาไม่เคยรับรู้ว่าพ่อของเขาคือใคร จนกระทั่งในวันที่เขาประสบความสำเร็จกับธุรกิจ เขาก็ยังไม่เคยรู้ Mark กลายเป็นคนไร้บ้านด้วยวัยเพียงแค่ 16 ปี เขาไม่มีงาน ไม่มีเงิน และไม่มีที่ซุกหัวนอนเพราะครอบครัวที่แตกแยก เขาอาศัยนอนในป่า และในช่วงเวลากลางวันจนถึงเย็น รวมถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาต้องทำงานหนักเพื่อหาเงิน แต่ถึงแม้เขาจะทำงานหนัก แต่ก็ไม่มีเงินมากพอที่จะจ่ายค่าเช่าห้องพักเล็ก ๆ เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยได้ แต่ยังโชคดีที่เขายังได้รับเงินจากองค์กรการกุศลที่ให้เงินแก่เขา ทำให้มีเงินมากพอที่เขาจะใช้ชีวิตได้ไม่ลำบากจนเกินไป

 

เมื่อ Mark อายุ 20 ปี เขาเริ่มเปิดโรงงานเล็ก ๆ ในห้องนอนตัวเองเพื่อผลิตสินค้าโดยมีวัตถุดิบง่าย ๆ ที่มาจากธรรมชาติ พร้อมกับส่งขายทางไปรษณีย์ให้กับใครก็ได้ที่สนใจมัน และไม่นานเขาก็ได้พบกับ Anita Roddick ผู้ก่อตั้ง The Body Shop เขาทั้งสองร่วมมือกันสร้างธุรกิจและแบ่งปันความหลงใหลในการสร้างน้ำหอม และเครื่องสำอางที่สร้างค่านิยมอันดีงามและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่หลังจากที่ The Body Shop ได้ถูกขายออกไปรวมทั้ง Anita Roddick ถึงแก่ความตาย Mark Constantine จึงเริ่มหันมาจริงจังกับการสร้าง LUSH กับภรรยาและผู้ร่วมก่อตั้งคนอื่น ๆ

 

LUSH Cosmetics สาขาแรกได้ถือกำเนิดขึ้นในปีค.ศ. 1995 เมืองพลู ประเทศอังกฤษ สินค้าของ LUSH คือ สบู่ ยาสระผม น้ำหอม และผลิตภัณฑ์เพื่อความงามต่าง ๆ และแน่นอนคือสินค้าทุกอย่างต้องไม่มีการทดลองกับสัตว์ วัตถุดิบมาจากพืชผักและผลไม้เป็นส่วนใหญ่

 

อีกทั้งยังปราศจากการใช้พลาสติก ดังนั้นหีบห่อของสินค้าจึงเป็นเพียงการห่อกระดาษง่าย ๆ หรืออยู่ในรูปแบบของเหลวที่ถูกบรรจุลงขวดแก้วเพื่อง่ายต่อการรีไซเคิล แม้สินค้าของ LUSH จะมีราคาสูงและอายุการใช้งานที่แสนสั้นเพียง 28 วัน หากแต่ลูกค้าของ LUSH ก็ยังคงให้การตอบรับอย่างดี เนื่องจาก LUSH แสดงจุดยืนที่ตระหนักรู้ในด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และประเด็นทางการเมืองต่าง ๆ การซื้อสินค้าของ LUSH รายได้ส่วนหนึ่งจะถูกบริจาคให้กับองค์กรการกุศลที่จะทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น

 

Mark มองเห็นปัญหาต่าง ๆ ที่จะตามมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก การเกิดภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย ผู้คนเริ่มตกงาน การมีอยู่ LUSH จึงเป็นส่วนช่วยให้คนเหล่านั้นมีงานทำ แต่ถึงอย่างไรก็ตามยังมีเรื่องอีกมากมายที่ท้าทายผู้ก่อตั้ง LUSH ให้ก้าวข้ามปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่รอพวกเขาอยู่ในอนาคต

 

Mark กล่าวว่า สิ่งที่ผลักดันเขาให้ก้าวผ่านชีวิตจากคนไร้บ้านที่ไม่มีอะไรเลยสู่ผู้ก่อตั้งแบรนด์ที่อยู่ข้างสังคมเกิดจากความบกพร่องของชีวิตและจิตใจของเขา หาใช่แรงบันดาลใจใด ๆ ที่พาเขามายืนสู่จุดนี้ แต่เป็นความยากลำบากที่เขาต้องเผชิญในวัยเด็กคือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาอย่างแท้จริง

 

ลงทุนศาสตร์ – Investerest

ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , OFFICIAL LINE และ WEBSITE

 

พิเศษ! เข้ากลุ่มเรียนหุ้นออนไลน์ฟรีกับลงทุนศาสตร์แบบไม่มีเงื่อนไขได้ที่ : เรียนหุ้นฟรีกับลงทุนศาสตร์

 

อ้างอิง
https://theecologist.org/2019/jan/04/unexpected-life-story
https://www.bigissue.com/news/lush-founder-mark-constantine-shares-his-own-experience-of-homelessness/
https://www.youtube.com/watch?v=7pY369nzRBU
https://www.youtube.com/watch?v=_HK_4T7BFwI

 

อัพเดทล่าสุดเมื่อ :

เกี่ยวกับผู้เขียน

ลงทุนศาสตร์

ผมเขียนบทความเกี่ยวกับการลงทุนตั้งแต่เบื้องต้น เหมาะสำหรับผู้ลงทุนหรือผู้ที่มีความสนใจที่จะลงทุนที่รักหรือมีทีท่าว่าจะรักในศาสตร์ของการลงทุนเหมือนกัน