สาเหตุหลัก 3 ประการที่ทำให้เศรษฐกิจจีนเติบโตช้าในปีนี้
ท่ามกลางวิกฤตเงินเฟ้อในปัจจุบัน ทั่วโลกต่างเผชิญปัญหาเศรษฐกิจไปพร้อมกัน แม้แต่จีนที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกก็ได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน ในปี ค.ศ. 2023 นี้ จากการคาดการณ์ของ IMF แม้ว่าเศรษฐกิจของจีนจะมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นหลังจากปรับลดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเศรษฐกิจจีนอาจเติบโตขึ้นร้อยละ 5.2 ซึ่งนับว่าเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่เศรษฐกิจจีนเติบโตขึ้นร้อยละ 3 แต่การเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปีนี้ก็ยังคงจะเป็นไปได้อย่างช้า ในที่นี้ ลงทุนศาสตร์ขอนำเสนอสาเหตุหลัก 3 ประการที่ทำให้เศรษฐกิจของจีนเติบโตช้าในปีนี้ ดังต่อไปนี้ [1,2,3]
ประการแรก มาตรการที่เข้มงวดในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบอยู่
แม้ว่าจีนจะประกาศคลายมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดลงแล้ว แต่ผลกระทบจากมาตรการครั้งนั้นก็ยังคงอยู่ เศรษฐกิจของจีนยังคงเสียหายอย่างหนักนับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 การล็อกดาวน์เป็นเวลานานกระทบต่อเศรษฐกิจจีนหลายภาคส่วน ทั้งผลผลิตของโรงงานต่าง ๆ ที่ลดน้อยลง และกำลังทรัพย์ในการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนที่ลดน้อยลง และที่สำคัญ การส่งออกของจีนก็มีจำนวนลดน้อยลงมาก โดยในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 2022 การส่งออกของจีนลดน้อยลงจากปีก่อนมากถึงร้อยละ 9.9
ประการต่อมา วิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลกและปัญหาความขัดแย้งกับสหรัฐอเมริกายังคงยืดเยื้อ
ปัจจัยที่ทำให้การส่งออกของจีนลดน้อยลงไม่ได้มีเพียงแค่กำลังการผลิตที่ลดน้อยลง แต่ยังรวมถึงความต้องการสินค้าจากนานาประเทศที่ลดลงเนื่องจากวิกฤตเงินเฟ้อด้วย ทั้งสหรัฐอเมริกาและยุโรป และประเทศอื่น ๆ ต่างก็ต้องรัดเข็มขัดและระมัดระวังการใช้จ่าย นอกจากนี้ การที่จีนมีความขัดแย้งกับสหรัฐอเมริกาก็ยิ่งส่งผลให้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจลดน้อยลงไป อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความขัดแย้งหรืออยู่ในภาวะวิกฤตเงินเฟ้ออย่างไร ในทางกลับกัน สินค้าของจีนก็ยังคงเป็นที่ต้องการของต่างชาติ ด้วยราคาที่ถูกและมีคุณภาพ ด้วยเหตุนี้ เศรษฐกิจของจีนจึงยังคงเติบโตได้ แม้จะเป็นที่คาดการณ์ว่าจะเติบโตช้าก็ตาม
ประการสุดท้าย จำนวนประชากรที่ลดลงส่งผลต่อจำนวนแรงงานที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ประชากรผู้สูงอายุของจีนมีเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ในขณะที่อัตราการเกิดกลับน้อยลงไปเรื่อย ๆ จำนวนประชากรที่น้อยลงเป็นดังระเบิดเวลาที่รอทำลายการเติบโตของเศรษฐกิจจีน เป็นที่คาดการณ์ว่าจำนวนประชากรของจีนในขณะนี้ที่มีจำนวนประมาณ 1.4 พันล้าน จะลดน้อยลงเหลือเพียง 800 ล้านภายในปี ค.ศ. 2100 การที่จำนวนประชากรของจีนน้อยลงนั้นเป็นผลมาจากนโยบายลูกคนเดียว ดังนั้น ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2021 เป็นต้นมา รัฐบาลจีนเริ่มสนับสนุนให้คู่รักมีลูกได้มากถึง 3 คน นโยบายดังกล่าวจะมีส่วนช่วยแก้ปัญหาประชากรของจีนได้หรือไม่ ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องติดตามกันต่อไป
แม้การเติบโตของเศรษฐกิจจีนอาจจะล่าช้าอยู่ที่ร้อยละ 5.2 แต่ก็ยังนับว่ามากกว่าประเทศอื่นในแถบเอเชียตะวันออกอย่างเช่นไต้หวัน (คาดการณ์เติบโตร้อยละ 2) และญี่ปุ่น (คาดการณ์เติบโตร้อยละ 3) อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับเวียดนามและอินเดียที่คาดการณ์เติบโตร้อยละ 6 แล้ว ก็ยังคงต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจของจีนในปีนี้เติบโตช้าขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ การเติบโตของเศรษฐกิจจีนยังคงเป็นเพียงการคาดการณ์ เราคงได้แต่จับตาดูกันต่อไปว่า จีนจะมีกลยุทธ์พลิกฟื้นกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตรวดเร็วขึ้นกว่าเดิมได้อย่างไร
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , และ WEBSITE
อ้างอิง
[1] Diego A. Cerdeiro and Sonali Jain-Chandra. (February 3, 2023). China’s Economy is Rebounding, But Reforms Are Still Needed. Retrieved from https://www.imf.org/en/News/Articles/2023/02/02/cf-chinas-economy-is-rebounding-but-reforms-are-still-needed
[2] Chris Clark. (June 30, 2023). ‘This is their last decade’: This famed geopolitical analyst says China will collapse in the next 10 years — here are 3 key numbers that could support his shocking forecast. Retrieved from https://finance.yahoo.com/news/10-years-left-famed-geopolitical-160000503.html
[3] Erin Hale. (July 2, 2023). China’s Slow Economic Recovery Expected to Challenge Asia. Retrieved from https://www.voanews.com/a/china-s-slow-economic-recovery-expected-to-challenge-asia/7163678.html
อัพเดทล่าสุดเมื่อ :