ข่าวร้ายคือเพื่อนแท้ของนักลงทุน ข้อคิดในการอยู่ท่ามกลางความไม่แน่นอน โดยวอร์เรน บัฟเฟตต์
ข่าวนโยบายภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ในช่วงที่ผ่านมา สร้างความปั่นป่วนในตลาดหุ้นเป็นอย่างมาก ดัชนี Nasdaq ร่วงต่ำเป็นประวัติการณ์นับจากช่วงโควิด-19 ในปี ค.ศ. 2020 ขณะที่ S&P 500 ลดลงอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนพากันหวั่นใจกับสัญญาณของเศรษฐกิจถดถอย ภาวะเงินเฟ้อ และนโยบายที่ไม่แน่ไม่นอนอาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นมากยิ่งขึ้น [1] อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงทั้งหลายเหล่านี้ หากเราพิจารณาถึงแนวทางการลงทุนของวอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีนักลงทุนผู้ยิ่งใหญ่ ข่าวร้ายนั้นนับเป็นมิตรแท้ที่นักลงทุนไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ในที่นี้ ลงทุนศาสตร์ขอพาท่านผู้อ่านไปสำรวจข้อคิดในการอยู่ท่ามกลางความไม่แน่นอน โดยวอร์เรน บัฟเฟตต์ ดังต่อไปนี้ [2, 3]
สำหรับวอร์เรน บัฟเฟตต์แล้ว ข่าวร้ายเป็นเสมือนเพื่อนที่ดีที่สุดของนักลงทุน ยิ่งมีข่าวร้ายในโลกของการลงทุนมากเท่าไหร่ ราคาหุ้นก็ยิ่งร่วงตกลง และนับเป็นโอกาสอันดีสำหรับนักลงทุนที่มีความรู้ความเข้าใจในความผันผวนของตลาด และรู้จักเลือกหุ้นคุณค่าที่จะทำกำไรต่อไปให้ได้ในระยะยาว ผู้ที่รับความเสี่ยงได้และเข้าใจในหุ้นย่อมสามารถใช้โอกาสที่ข่าวร้ายมอบให้ในการช้อนซื้อหุ้นที่ตนเองสนใจ ผู้มีความเข้าใจในตลาดหุ้นจะมองเห็นข่าวร้ายเป็นเหมือนเพื่อน และเข้าใจว่าราคาที่ร่วงต่ำลงไม่ได้หมายความว่าคุณค่าของหุ้นนั้นกำลังลดลงไป
ในขณะเดียวกัน ความกลัวนับเป็นศัตรูตัวฉกาจที่ขวางกั้นไม่ให้นักลงทุนประสบความสำเร็จได้ดังใจหวัง นักลงทุนไม่น้อยติดกับดักความกลัว หวั่นไหวไปกับข่าวร้ายและมองไม่เห็นโอกาสท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจผันผวน ยิ่งพยายามทำนายความเป็นไปของตลาด นับถอยหลังวันที่เศรษฐกิจจะถดถอยก็ยิ่งผูกมัดตัวเองเข้ากับความกังวลที่ไม่มีจุดสิ้นสุด ดังนั้น นักลงทุนควรมองข่าวร้ายในฐานะเพื่อนที่ดีที่สุดที่ผ่านเข้ามาทักทายเพื่อหยิบยื่นโอกาส ไม่ใช่ลางร้ายหรือความล่มสลายของตลาดหุ้น
วอร์เรน บัฟเฟตต์ ได้เน้นย้ำอยู่เสมอว่า นักลงทุนควรกลัวเมื่อผู้อื่นกำลังโลภ และนักลงทุนควรละโมบเมื่อผู้อื่นเริ่มหวาดกลัว คำสอนนี้ถูกพิสูจน์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพนับตั้งแต่ช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 2008 จนถึงช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในความคิดของเขา นักลงทุนที่ทนรับความกดดันไม่ได้ไม่ควรซื้อหุ้น เพราะการที่ผู้มีความกังวลครอบครองหุ้นจะกลายเป็นการทำให้คนผู้นั้นไม่อาจซื้อหุ้นได้ในจังหวะที่เหมาะสม และเมื่อไหร่ก็ตามที่พบกับข่าวร้าย ก็จะกลายเป็นการกดดันให้ต้องขายหุ้นในเวลาที่ไม่ควรอีกเช่นกัน
การขึ้นลงของตลาดและข่าวร้ายนับเป็นเพื่อนแท้ที่นักลงทุนไม่มีวันหนีพ้น แทนที่จะหวาดกลัวและพลาดโอกาส นักลงทุนควรฉวยคว้าจังหวะที่ดีและซื้อหุ้นเพื่อรอคอยให้ได้กำไรในวันข้างหน้า ลงทุนศาสตร์หวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านผู้อ่านจะไม่หวั่นใจไปเมื่อได้พบกับข่าวร้าย และสามารถประคองสติเพื่อพิจารณาหุ้นที่เหมาะสม ที่จะทำกำไรให้ได้อย่างงดงาม
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , และ WEBSITE
อ้างอิง
[1] The Wall Street Journal. (April 8, 2025). Markets Swing Wildly as Trump Holds His Ground on Tariff Plan. Retrieved from https://www.wsj.com/livecoverage/stock-market-trump-tariffs-trade-war-04-07-25
[2] Mancini, J. (March 14, 2025). Warren Buffett Said ‘Bad News Is an Investor’s Best Friend’ and If You’re Not Ready for Stocks to Drop 50%, You Shouldn’t Be Investing. Retrieved from https://finance.yahoo.com/news/warren-buffett-said-bad-news-203018862.html
[3] Ermey, R. (April 8, 2025). Warren Buffett denies endorsing Trump’s tariffs—here’s what he’s said about them in the past. Retrieved from https://www.cnbc.com/2025/04/08/what-warren-buffett-has-said-about-tariffs-bear-markets.html
อัพเดทล่าสุดเมื่อ :