ลงทุนอย่างไรในยามตลาดแพง : ปีเตอร์ ลินช์
ในการลงทุนกับหุ้น ราคาตลาดนับเป็นปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนควรพิจารณา หากตลาดแพง (overvalue) ซึ่งหมายถึงการที่ราคาหุ้นในตลาดสูงกว่าราคาที่ประเมินได้ ผู้ลงทุนก็ไม่ควรซื้อหุ้นนั้น แต่ควรขาย ในกรณีที่ครอบครองหุ้นไว้ในมือ ในทางกลับกัน หากตลาดถูก (undervalue) ราคาของหุ้นในตลาดต่ำกว่าราคาที่ประเมินได้ ผู้ลงทุนควรซื้อหุ้นในตลาด และยังไม่ควรขายหุ้นที่มีอยู่ออกไป [1]
ในปีค.ศ. 2022 นี้ นักลงทุนต่างพากันประเมินว่าตลาดยังคงแพงอยู่ [2] สถานการณ์ที่ตลาดแพงเช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในประวัติศาสตร์ ตั้งแต่ปีค.ศ. 1929 และในปีค.ศ. 1997 [3] บทเรียนจากอดีตที่ผ่านมาได้กลายเป็นบทเรียนให้นักลงทุนได้มองย้อนไปและประเมินว่าควรลงทุนในสถานการณ์เช่นนี้อย่างไร
ในครั้งนี้ ลงทุนศาสตร์ขอนำเสนอบทเรียนจากคำแนะนำของ ปีเตอร์ ลินช์ นักลงทุนชื่อดังที่ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ในรายการตั้งแต่ปีค.ศ. 1997 และได้รับการสรุปอีกทีโดยช่อง YouTube New Money [4] ปีเตอร์ ลินช์ ได้ให้คำแนะนำในการลงทุนยามตลาดแพงในปีค.ศ. 1997 ไว้อย่างน่าสนใจดังนี้
ในยามตลาดแพง บริษัทต่าง ๆ เผชิญกับความผันผวนทางเศรษฐกิจและอาจประคองกิจการต่อไปได้ หรือไม่ได้ ในสถานการณ์เช่นนี้ นักลงทุนควรมองหาบริษัทที่สนใจลงทุนให้รอบด้าน อย่าเลือกติดตามเฉพาะบริษัทใหญ่ ๆ นักลงทุนควรใช้เวลาเลือกหาบริษัทที่ตนมีความสนใจและเข้าใจในกิจการนั้น ๆ อย่างแท้จริง โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนไปทุกบริษัท นักลงทุนอาจเลือกลงทุนเพียงแค่ 1 บริษัทจากการค้นหาทั้งหมด 20 บริษัทก็เป็นได้
การเลือกบริษัทที่ตนสนใจนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง หากคนเราสนใจเลือกซื้ออาหารที่ต้องการโดยเปรียบเทียบทั้งคุณภาพและราคา การเลือกซื้อหุ้นก็ควรเป็นไปด้วยความพิถีพิถันเช่นกัน การเล่นหุ้นนั้นไม่เหมือนกับการเล่นพนันในบ่อนที่พึ่งพาการตัดสินใจเพียงชั่วครู่ นักลงทุนมีเวลามากมายในการเลือกศึกษาหุ้นที่ต้องการก่อนตัดสินใจซื้อ โดยอาจเลือกจากแวดวงกิจการที่ตนเองมีความรู้ เช่น หากนักลงทุนมีความรู้เรื่องพิซซ่า ก็อาจเลือกมองหากิจการที่ใกล้เคียง ดีกว่าการไปเลือกลงทุนทางเทคโนโลยีที่ดูมีแนวโน้มว่าจะดี แต่ตัวผู้ลงทุนไม่มีความรู้ความเข้าใจในบริษัทเหล่านั้นเลย
หลังจากเลือกบริษัทที่สนใจและมีความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว ในสถานการณ์ตลาดแพงเช่นนี้ นักลงทุนต้องพยายามมองหาบริษัทที่มีหนี้ต่ำ มีความมั่นคงพอสำหรับการลงทุนต่อในระยะยาว
ที่สำคัญ นักลงทุนจำเป็นต้องมองภาพสถานการณ์ในระยะยาว เมื่อมองภาพในระยะยาวตั้งแต่ 5 ปี 10 ปี หรือ 20 ปี นักลงทุนจะไม่กังวลกับสถานการณ์ตลาดแพงที่เกิดขึ้น ตรงกันข้าม นักลงทุนจะรู้สึกตื่นเต้นกับการเลือกลงทุนในแต่ละจังหวะเวลาแทนที่จะกดดัน
กล่าวโดยสรุป นักลงทุนควรมองหาบริษัทที่ตนเองสนใจและมีความเข้าใจอย่างแท้จริง เลือกบริษัทที่ยังมั่นคงอยู่ในสถานการณ์ตลาดแพง และรอดูผลการลงทุนในระยะยาว นักลงทุนไม่ควรกังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ควรจับตาดูอย่างระมัดระวัง และเลือกลงทุนในสิ่งที่ตนเองเข้าใจอย่างถ่องแท้โดยไม่หวั่นไหวต่อไป
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , OFFICIAL LINE และ WEBSITE
พิเศษ! เข้ากลุ่มเรียนหุ้นออนไลน์ฟรีกับลงทุนศาสตร์แบบไม่มีเงื่อนไขได้ที่ : เรียนหุ้นฟรีกับลงทุนศาสตร์
อ้างอิง
[1] ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย. (2558). การประเมินมูลค่าหุ้น. สืบค้นจาก https://www.set.or.th/education/th/begin/stock_content05.pdf
[2] Mislinski, J. (January 6, 2022). Is the Market Still Overvalued?. Retrieved from https://www.advisorperspectives.com/dshort/updates/2022/01/06/is-the-market-still-overvalued
[3] Carlson, B. (July 31, 2019). Yes Stocks Are Overvalued. But by How Much? Here’s What History Tells Us. Retrieved from https://fortune.com/2019/07/31/yes-stocks-are-overvalued-but-by-how-much-heres-what-history-tells-us/
[4] New Money. (February 11, 2021). Peter Lynch: How to Invest in an Overvalued Market. Retrieved from https://www.youtube.com/watch?v=iX_8UI9frjE
อัพเดทล่าสุดเมื่อ :