อยากลองเล่นหุ้นดูใช่ไหม? แต่ไม่เข้าใจอะไรเกี่ยวกับหุ้นเลย เรียกว่าความรู้หุ้นเป็นศูนย์ ไม่รู้ต้องเริ่มจุดไหน ไม่เข้าใจว่าต้องทำอย่างไรบ้าง ทุกอย่างดูยากและมีแต่ศัพท์เฉพาะ วันนี้ลงทุนศาสตร์เขียนบทความ ” วิธีเริ่มเล่นหุ้น ” สำหรับมือใหม่แบบใหม่สุดๆ โดยเฉพาะ เพื่อเป็นความรู้พื้นฐาน สำหรับการต่อยอดหาเงินและลงทุนในอนาคต
1 หุ้นคืออะไร
หุ้น (stock หรือ share) คือ ส่วนของความเป็นเจ้าของของบริษัทจดทะเบียน อธิบายแบบนี้ กิจการต่างๆ เวลาที่ต้องขยายธุรกิจ แต่ไม่อยากกู้ธนาคาร วิธีหนึ่งคือเสนอขายหุ้นให้กับนักลงทุนรายย่อยซึ่งถือเป็นการให้ใครก็ได้สามารถมาร่วมเป็นเจ้าของกิจการได้ เหมือนเราอยากเปิดร้านกาแฟสักร้านหนึ่ง แต่เงินไม่พอจึงไปหาคนมาหุ้นด้วย เวลามีกำไรจากธุรกิจก็แบ่งกันไปตามสัดส่วน แต่บริษัทที่จะขายหุ้นผ่านตลาดหลักทรัพย์ได้จะต้องจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนและผ่านเกณฑ์ในการนำมาระดมทุนได้ ความโปร่งใสของข้อมูลจะมากกว่าธุรกิจที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ เพื่อส่งเสริมให้นักลงทุนรายย่อยลงทุนได้อย่างปลอดภัย
2 หุ้นซื้อขายอย่างไร
หุ้นซื้อขายผ่านตลาดรองทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในปัจจุบันมี 2 ตลาด คือ SET และ MAI แต่ในทางปฏิบัติไม่มีความแตกต่างเท่าไหร่นัก เพราะสามารถซื้อขายได้เหมือนกัน โดยนักลงทุนรายย่อยต้องซื้อขายผ่านบริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาต หรือที่เรียกติดปากกันว่า “โบรคเกอร์” เพื่อให้โบรคเกอร์เป็นคนกลางในการจัดการโอนหุ้นและโอนเงินกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย นักลงทุนไม่จำเป็นต้องไปประกาศหาผู้ซื้อหรือผู้ขายหุ้นด้วยตนเอง เพียงแต่ซื้อขายผ่านตลาดกลางที่จัดสรรไว้ และปล่อยให้โบรคเกอร์เป็นคนดูแลจัดการเรื่องธุรกรรม
3 ราคาซื้อขายหุ้นกำหนดจากอะไร
ระบบการซื้อขายหุ้นคือระบบประมูล เราจะสามารถซื้อหุ้นได้โดยตั้งราคาที่อยากซื้อไว้ รอให้มีคนมาขายให้ราคาที่ต้องการ หรือเลือกซื้อหุ้นเลยจากคนขายที่มาตั้งราคาขายไว้ก็ได้ เช่น หุ้นตัวหนึ่งมีราคาเสนอซื้ออยู่ที่ 72.25, 72.50, 72.75, 73.00 และ 73.25 ในขณะที่ราคาเสนอขายอยู่ที่ 73.50, 73.75, 74.00, 74.25 และ 74.50 หากเราต้องการซื้อหุ้นให้ได้ราคาต่ำๆ เราก็สามารถตั้งราคาไว้รอได้ เช่น เสนอซื้อที่ 73.00 บาท รอให้คนมาขายให้เรา แต่ถ้าเราต้องการหุ้นเลยเพราะคิดว่าราคาเหมาะสมแล้วก็สามารถเคาะซื้อจากคนที่เสนอขายไว้ได้เลยที่ 73.50 บาท (ราคาถูกที่สุดเท่าที่มีคนเสนอขาย) แบบนี้ก็จะได้หุ้นทันที ไม่ต้องตั้งราคารอซึ่งการตั้งราคารอก็อาจจะไม่ได้หุ้นก็ได้ หากไม่มีคนยอมขายที่ราคาที่เราตั้ง
4 หุ้นซื้อขายผ่านทางไหน
หุ้นซื้อขายผ่านทางโบรคเกอร์เป็นหลัก แต่วิธีการซื้อขายผ่านโบรคเกอร์ก็สามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน วิธีดั้งเดิมคือการโทรศัพท์ไปที่บริษัทโบรคเกอร์เพื่อทำการสั่งซื้อขายผ่านผู้ดูแลนักลงทุนส่วนตัวของเรา แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวหน้าไปมาก เราสามารถสั่งซื้อขายหุ้นผ่านทางเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชันออนไลน์ได้ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกอย่างมากในการลงทุน เราสามารถตัดสินใจซื้อขายได้รวดเร็วและทันสถานการณ์
5 กำไรจากหุ้นมาจากไหน
กำไรจากหุ้นมาจาก 2 ทางด้วยกัน คือ ส่วนต่างราคาและเงินปันผล โดยส่วนต่างราคาคือกำไรที่ได้จากราคาหุ้นที่เราขายสูงกว่าราคาหุ้นที่เราซื้อมา เช่น หากซื้อหุ้นตัวหนึ่งมาที่ราคา 10 บาท จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่ารวม 100,000 บาท ต่อมาราคาหุ้นขึ้นไปสูงจึงตัดสินใจขายที่ราคา 12 บาททั้งหมด มูลค่ารวม 120,000 บาท แบบนี้เราจะได้ส่วนต่าง 20,000 บาทจากการลงทุนครั้งนี้ (ต้องหักค่าคอมมิชชันส่วนหนึ่งให้โบรคเกอร์ด้วย ประมาณ 0.20% ของมูลค่าการซื้อขาย) ซึ่งหากเราขายไปที่ราคาต่ำกว่าที่ซื้อมา ตรงนี้ก็จะกลายเป็นการขาดทุนจากการลงทุน ส่วนกำไรอีกด้านหนึ่งคือเงินปันผล โดยทั่วไป กิจการจะจ่ายเงินปันผลคืนแก่ผู้ถือหุ้นโดยจัดสรรจากกำไรสุทธิ หากหุ้นที่เราถืออยู่ประกาศจ่ายเงินปันผล เราก็จะได้เงินตรงนี้เข้าบัญชีมาด้วย ซึ่งหุ้นแต่ละตัวก็มีนโยบายการปันผลแตกต่างกันออกไป บางตัวไม่ปันผลเลย บางตัวปันผลบ่อย บางตัวปันผลปีละครั้ง
6 ในตลาดหุ้นมีกิจการอะไรให้ซื้อบ้าง
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปัจจุบันมีหุ้นอยู่ประมาณ 700 ตัว ซึ่งก็มีธุรกิจให้เลือกหลากหลาย โดยธุรกิจใหญ่ๆ ระดับประเทศส่วนใหญ่ก็จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ให้เราซื้อขายหุ้นทั้งสิ้น ตัวอย่างเช่น CPALL ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น CPN ห้างสรรพสินค้าเซนทรัล BDMS เจ้าของเครือโรงพยาบาลกรุงเทพดุสิตเวชการ ADVANC เครือข่ายโทรศัพท์เอไอเอส WORK ช่องโทรทัศน์เวิร์คพอยท์ทีวี SCC ปูนซีเมนต์ไทย PTT บริษัทน้ำมันปตท. AOT ท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย AAV สายการบินไทยแอร์เอเชีย KBANK ธนาคารกสิกรไทย ITD รับเหมาก่อสร้างอิตาเลียนไทย BTS รถไฟฟ้าบีทีเอส SPALI ผู้พัฒนาคอนโดมีเนียมศุภาลัย ICHI เครื่องดื่มอิชิตัน CBG เครื่องดื่มคาราบาวแดง เป็นต้น
7 เราจะเปิดพอร์ตหุ้นได้อย่างไร
เราสามารถติดต่อเปิดพอร์ตหุ้นได้โดยตรงที่บริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยดูรายชื่ออ้างอิงตามเว็บไซต์ของกลต. ที่นี่ นักลงทุนสามารถติดต่อโดยตรงโดยการโทรไปสอบถาม หรือไปติดต่อที่สาขาใกล้บ้าน ในกรณีที่เงินลงทุนยังไม่มาก (การซื้อขายไม่เกิน 50,000 บาทต่อวัน) แนะนำเลือกโบรคเกอร์ที่ไม่มีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำเพื่อช่วยประหยัดค่าธรรมเนียมได้ โดยโบรคเกอร์ไหนมีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำหรือไม่อย่างไรก็สามารถสอบถามได้ที่โบรคเกอร์ได้โดยตรงเช่นกัน
8 เปิดพอร์ตหุ้นแล้วจะเลือกหุ้นมาซื้อขายอย่างไร
ตลาดหุ้นมีหุ้นมากกว่า 700 ตัว นับเฉพาะในไทย ถ้ารวมทั่วโลกก็มีหลายหมื่นตัว วิธีสูตรสำเร็จในการหาหุ้นมาลงทุนนั้นไม่มี นักลงทุนต้องทยอยศึกษาหุ้นไปเรื่อยๆ โดยอาจเริ่มจากหุ้นขนาดใหญ่ที่มีรายชื่ออยู่ใน SET100 เมื่อครบแล้วอาจไล่ไปอ่านหุ้นตามอุตสาหกรรมที่ตนถนัดหรือใกล้ตัว หรือวิธีหนึ่งอาจใช้วิธีแสกนหุ้นมาอ่านก็ได้ โดยเครื่องมือการแสกนหุ้นก็มีให้เลือกใช้ทั่วไป เราสามารถเสิจจากกูเกิ้ลได้เลย เราต้องอาศัยการสะสมชื่อหุ้นไปเรื่อยๆ ยิ่งเวลาผ่านไป ขอบเขตการลงทุนของเราจะใหญ่ไปตามความรู้ที่สะสมมา ช่วงเดือนแรกจะงงที่สุดเพราะไม่ค่อยรู้จักหุ้น ผ่านไปสามเดือนจะดีขึ้น ครบหนึ่งปีก็จะเริ่มอยู่ตัวแล้ว
9 การเล่นหุ้นอย่างมีหลักการทำอย่างไร
แนวคิดการลงทุนมีหลักๆ 2 วิธี ได้แก่ การลงทุนตามปัจจัยพื้นฐานและการลงทุนตามปัจจัยเทคนิค การลงทุนตามปัจจัยพื้นฐานคือการมองภาพธุรกิจ วิเคราะห์กิจการของหุ้นที่อยากลงทุน อ่านงบการเงิน วิเคราะห์การเติบโตในอนาคต ในขณะที่การลงทุนตามปัจจัยเทคนิคคือการให้ความสำคัญกับราคาหุ้นเป็นหลัก โดยเราจะดูกราฟหุ้นเพื่อติดตามพฤติกรรมราคาและตัดสินใจซื้อขายตามความน่าจะเป็นที่น่าจะเกิดขึ้นในอนาคต
10 อยากเริ่มต้นลงทุนในหุ้นอย่างถูกวิธีต้องทำอย่างไร
วิธีการลงทุนที่ดีที่สุดคือการลงทุนในความรู้ก่อน นักลงทุนจำเป็นต้องศึกษาพื้นฐานของการลงทุนก่อนเป็นพื้นฐานเพื่อลงสนามจริง วิธีที่ง่ายที่สุดคือการอ่านหนังสือชั้นเยี่ยมที่นักลงทุนเก่งๆ เขียนวิธีแนะนำการลงทุนแนะนำไว้แล้ว หนังสือการลงทุนที่มีเนื้อหาดีและอ่านง่ายเหมาะกับมือใหม่ที่แนะนำได้แก่ “เพาะหุ้นเป็นเห็นผลยั่งยืน – กวี ชูกิจเกษม” “ตีแตกกลยุทธ์การเล่นหุ้นในภาวะวิกฤต – ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร” และ “ศาสตาร์ของบัฟเฟตต์ – แมรี่ บัฟเฟตต์”
คำแนะนำหนึ่งเดียวคือ หากอ่านบทความนี้จบแล้วสนใจอยากลงทุนก็รีบไปเปิดพอร์ตและซื้อหนังสือแนะนำทั้ง 3 เล่มนี้มาอ่านในจบภายในสัปดาห์นี้ หากเลื่อนบทความหรือปล่อยความสนใจในการลงทุนผ่านไป โอกาสที่จะได้ลงทุนหาเงินก็จะถูกพับเก็บลงกล่องและวางทิ้งลืมไปอย่างที่เคยเป็นผ่านๆ มา ถ้าสนใจก็รีบทำตอนนี้เลย รีบก่อนที่ไฟในความพยายามจะดับมอดลง
รู้ไหม ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการลงทุน ( เล่นหุ้น ) คือ …ตอนนี้เลย
พิเศษสุด : เข้ากลุ่มเรียนหุ้นออนไลน์กับลงทุนศาสตร์ ไม่ขายคอร์ส ไม่เก็บตัง ไม่มีเงื่อนไข ลงเนื้อหาครบแล้ว เรียนครบเข้าตลาดหุ้นได้เลย กดที่นี่ เรียนหุ้นฟรีกับลงทุนศาสตร์
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , OFFICIAL LINE และ WEBSITE
พิเศษ! เข้ากลุ่มเรียนหุ้นออนไลน์ฟรีกับลงทุนศาสตร์แบบไม่มีเงื่อนไขได้ที่ : เรียนหุ้นฟรีกับลงทุนศาสตร์
อัพเดทล่าสุดเมื่อ :