ลงทุนในดัชนี ดีจริงหรือเปล่า

ดัชนีตลาดหุ้น (Stock Index) คือ การนำหุ้นมาจัดกลุ่มรวมกัน เพื่อคำนวณหาตัวเลขสำหรับชี้วัดการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้น โดยทั่วไป หุ้นที่จะมาจัดเรียงในดัชนีจะต้องมีพื้นฐานดีระดับหนึ่ง ถึงจะเป็นตัวแทนของตลาดหุ้นได้ นักลงทุนกลุ่มหนึ่งจึงนิยมลงทุนตามหุ้นในดัชนี คำถาม คือ ลงทุนในดัชนี ดีจริงหรือเปล่า

Warren Buffett บอกว่า ลงทุนในดัชนี ดีที่สุดสำหรับคนที่ไม่มีความรู้มาก

การลงทุนในดัชนี หากยกตัวอย่างดัชนีในประเทศไทย ได้แก่ SET50 กลายเป็นตัวเลือกที่ดีมาก ๆ สำหรับนักลงทุนที่ไม่ได้มีความรู้เรื่องหุ้นรายตัวมาก เนื่องจากกองทุนรวมดัชนีมีให้เลือกซื้อได้โดยง่าย ค่าธรรมเนียมต่ำ นอกจากนี้ หุ้นที่บรรจุในดัชนีมักจะมีพื้นฐานดีอยู่แล้ว จึงทำให้มีความไว้วางใจได้ระดับหนึ่ง

ผลตอบแทนของดัชนี ดีจริงไหม

ตอบแบบกำปั้นทุบดินเลยว่า ผลตอบแทนของดัชนีก็จะเป็นค่าเฉลี่ยกลาง ๆ ของผลตอบแทนประเทศ ไม่ได้สูงมากโดดเด่น แต่ก็ไม่ได้น้อยมาก เรียกว่าเกาะไปตามผลตอบแทนตลาดหุ้นประเทศ เพราะความจริง ผลตอบแทนดัชนีนี่แหละที่วัดผลตอบแทนของตลาดหุ้น ดังนั้น การลงทุนในดัชนีจะหวังผลระดับมหาศาลไม่ได้ ควรจะตั้งเป้าไว้ระดับกลาง ๆ จะดีกว่า แต่เน้นไปที่การลงทุนระยะยาว

ผลตอบแทนในอนาคต จะดีเหมือนในอดีตไหม

คำตอบนี้ คือ ต้องดูจากความสามารถในการแข่งขันของประเทศ หากประเทศมีแนวโน้มการเติบโตในอนาคตดี ดัชนีตลาดหุ้นก็อาจจะขึ้นไปได้อีกมาก ในทางตรงกันข้าม หากความสามารถในการแข่งขันของประเทศไม่ดี เติบโตยาก เช่น ประเทศที่มีสถานะทางการเงินไม่มั่นคง ประเทศที่มีประชากรสูงอายุเยอะ ตัวเลขทางเศรษฐกิจโตน้อย แบบนี้ดัชนีก็อาจจะไม่ไปไหน หรือตกต่ำเป็น 10 ปีเลยก็ได้

การซื้อดัชนีจึงอ้างอิงไปกับประเทศเป็นหลัก

ดังนั้น หากจะเลือกตัดสินใจซื้อดัชนี หรือลงทุนในหุ้นตามดัชนี ของประเทศใดประเทศหนึ่ง ก่อนอื่น เราต้องมองภาพระยะยาวของประเทศนั้นเสียก่อนว่าดี มีแนวโน้มจะเติบโตไปในระยะยาวได้ แบบนี้จึงควรลงทุน แต่ถ้ามองไม่เห็นว่าในระยะยาวจะเติบโตดีไหม เราก็ควรจะเปลี่ยนมาเลือกลงทุนในหุ้นรายตัว หรือไม่ก็เลือกไปลงทุนในดัชนีของประเทศที่มีแนวโน้มดีกว่า

ซื้อดัชนีก็ต้องคิด ไม่ใช่ซื้อไปแบบไม่คิดอะไร

ถึงแม้ว่าการลงทุนในดัชนีจะเป็นเรื่องที่เรียบง่าย แต่ต้นตำรับความคิดอย่าง Warren Buffett นั้นมาจากประเทศสหรัฐอเมริกาที่เป็นผู้นำโลก และเศรษฐกิจมีการเติบโตต่อเนื่องมาเป็น 100 ปี หากเราจะประยุกต์ใช้แนวคิดนี้กับประเทศอื่น เราก็ต้องถามตัวเองให้มาก ๆ ว่า ประเทศนั้นจะเติบโตได้จริงแท้ หรือไม่ อย่างไร