ชวนทำความรู้จัก Penny Stock หุ้นจิ๋วในตลาดหลักทรัพย์

โดยปรกติ คนส่วนใหญ่มักให้ความสนใจกับหุ้นราคาสูงหรือหุ้นใหญ่ ๆ เนื่องจากเป็นหุ้นของบริษัทที่มีผลประกอบการที่น่าเชื่อถือ และยังมีข่าวสารให้ติดตามมากกว่าหุ้นขนาดเล็ก สำหรับ Penny Stock คือหุ้นสามัญที่อาจเรียกได้ว่า เป็นหุ้นขนาดจิ๋ว เพราะมักมีมูลค่าต่ำกว่าหนึ่งดอลลาร์ ก่อนที่ในปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (กลต.) ได้มีการให้คำนิยามสำหรับ Penny Stock ใหม่ว่า คือหุ้นที่มีมูลค่าต่ำกว่าห้าดอลลาร์ ในขณะเดียวกันกับที่สหราชอาณาจักรตีความว่า คือหุ้นที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1 ปอนด์ ดังนั้น หุ้นจิ๋วเหล่านี้จึงมูลค่าแตกต่างกันออกไป ตามแต่ละตลาดในแต่ละประเทศที่ต่างกัน

Penny Stock เหล่านี้ มักมาจากบริษัทขนาดเล็กที่ขาดสภาพคล่อง โดยมีข้อจำกัดทางด้านทรัพยากรโดยเฉพาะเงินสด นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานของบริษัทต่อสาธารณะมักหาได้ยาก และมีข้อมูลน้อยมาก เพราะไม่ต้องรายงานผลการดำเนินงานให้กับกลต. บริษัทหลายแห่งอาจเพิ่งก่อตั้ง หรืออาจใกล้ล้มละลาย โดยมักไม่มีรายละเอียดประวัติก่อนหน้าให้ศึกษามากนัก ซึ่งอาจไม่เพียงพอต่อการตัดสินใจ ถึงแม้ว่าธุรกิจอาจมีศักยภาพเติบโตได้ในอนาคต แต่ก็มีความเสี่ยงสูงต่อนักลงทุนด้วยเช่นกัน เนื่องมาจากมีจำนวนผู้ซื้อในตลาดที่น้อยราย ทำให้หาราคาที่สะท้อนในตลาดอย่างแม่นยำได้ยาก นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่จะถูกปั่นหุ้นได้ง่ายอีกด้วย แต่บริษัทยักษ์ใหญ่บางบริษัท ก็มีต้นกำเนิดมาจากหุ้นเพนนี อย่าง Amazon (AMZN) ที่ปัจจุบันเติบโตจนกลายมาเป็นบริษัทบลูชิปขนาดใหญ่ระดับโลก

โดยส่วนใหญ่ Penny Stock จะซื้อขายผ่านระบบ OTC (over the counter) หรือการซื้อขายหลักทรัพย์นอกตลาดหลักทรัพย์ โดยหุ้นประเภทนี้ จะมีตัวอักษร OB ต่อท้าย แต่อาจมีบางส่วน (น้อยมาก) ที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ขนาดใหญ่ เช่น NASDAQ หรือ New York Stock Exchange โดยมีข้อจำกัดว่า บริษัทเหล่านั้น จะต้องรักษาฐานสินทรัพย์ขั้นต่ำและคงราคาหุ้นให้สูงกว่า 4 ดอลลาร์ เพื่อให้มีสิทธิ์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หากไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำเหล่านี้ ก็จะถูกเพิกถอนออกและจบลงด้วยการซื้อขาย OTC แทนเท่านั้น

Penny Stock มีความผันผวนสูง จึงดึงดูดให้ใครหลายคนอยากเข้ามาลงเล่น ด้วยความคาดหวังว่าจะได้ผลกำไรมหาศาลในระยะเวลาสั้น ๆ จากการเก็งกำไรในหุ้นประเภทนี้ โดยปกติแล้ว หุ้นเพนนีจะถูกจัดประเภทเป็นหุ้นไมโครแคป (microcap stocks) โดยหมายถึง บริษัทที่มีมูลค่าตลาดอยู่ระหว่าง 250 – 300 ล้านดอลลาร์

จากที่กล่าวมา หุ้นเพนนีจึงเหมาะสมสำหรับนักลงทุน ที่สามารถยอมรับต่อความเสี่ยงสูงได้ โดยผู้ลงทุนใน Penny Stock ควรมีการกำหนดจุด Cut-loss ที่ชัดเจน คือการตระหนักได้ว่า ควรจะออกจากตลาดตอนไหนหากมูลค่าหุ้นเริ่มมีการสวนทางกับที่วางแผนไว้