Rebalancing Portfolio คือ หัวใจของการลงทุนระยะยาว

Rebalancing Portfolio คือ การปรับสมดุลพอร์ตการลงทุน เพื่อปรับสัดส่วนของสินทรัพย์ในพอร์ตการลงทุนที่อาจจะเปลี่ยนแปลงไปเมื่อผ่านไปในช่วงเวลาหนึ่ง ให้กลับมาเป็นไปตามสัดส่วน หรือแผนการลงทุนที่เราตั้งใจไว้ในตอนแรก

ยกตัวอย่างการ Rebalance Portfolio

เราตั้งเป้าหมายว่า เราจะคงสัดส่วนการลงทุนระหว่าง หุ้น : ตราสารหนี้ อยู่ที่ 70 : 30 ตลอดเวลา เนื่องจากเป็นสัดส่วนที่เหมาะกับความเสี่ยงที่เราคาดว่าจะรับได้ เมื่อเริ่มต้นลงทุน เราลงทุนใน หุ้น : ตราสารหนี้ อยู่ในสัดส่วน 70 : 30 แต่เวลาผ่านมา ตลาดหุ้นร้อนแรงอย่างมาก หุ้นราคาขึ้นอย่างรวดเร็ว จนสัดส่วนการลงทุนเปลี่ยนมาอยู่ที่ หุ้น : ตราสารหนี้ เท่ากับ 90 : 10 แบบนี้ เราควรทำ Rebalancing Portfolio ให้กลับมาอยู่ที่ 70 : 30 เท่าเดิม โดยขายหุ้นออกมาบางส่วน และนำมาซื้อตราสารหนี้

ทำไมเราถึงควรจะต้อง Rebalance Portfolio

การปรับสัดส่วนพอร์ตการลงทุนจะช่วยทำให้พอร์ตเราอยู่ในช่วงความเสี่ยงที่เราตั้งใจไว้ตั้งแต่ต้นได้ โดยความเสี่ยงดังกล่าวจะเป็นสมดุลที่เหมาะสมกับตัวเรา ไม่เสี่ยงมากจนเกินไป และไม่เสี่ยงน้อยจนเกินไป การไม่ปรับสมดุลของพอร์ตเลย จะทำให้สัดส่วนการลงทุนผิดไปจากที่ตั้งใจ ในระยะยาว เป้าหมายการลงทุนที่ตั้งใจไว้อาจจะผิดไปจากแผนที่กำหนดก็เป็นได้

เมื่อไหร่ที่เราถึงควรจะต้องทำ Rebalance Portfolio

(1) เมื่อเวลาผ่านไปช่วงหนึ่ง โดยทั่วไป อาจจะกำหนดไว้ที่อย่างมากไม่เกิน 3 เดือน เพราะจะเป็นช่วงที่งบการเงินของหุ้นออกพอดี เราจะจับเป็นต้องปรับพอร์ตการลงทุน ช่วงเวลานั้น เราสามารถกลับมาดูสมดุลพอร์ตได้ด้วย แต่อีกประเด็นหนึ่งที่ควรทราบ คือ เราไม่ควรจะปรับพอร์ตถี่เกินไปเช่นกัน เพราะจะทำให้เราโฟกัสอยู่กับราคาระยะสั้นมากกว่าเป้าหมายระยะยาว โดยทั่วไป กรอบควรอยู่ที่ประมาณ 1 – 3 เดือน

(2) เมื่อสัดส่วนสินทรัพย์เคลื่อนไหวมาจนถึงจุดที่กำหนด ในช่วงเวลาที่ตลาดมีการเปลี่ยนแปลงมาก ๆ สัดส่วนการลงทุนอาจจะเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว หากเกินเหตุการณ์นั้น เราควรจะปรับพอร์ตการลงทุนก่อนที่จะถึงเวลาที่กำหนด เพื่อรักษาความเสี่ยงอยู่ในช่วงที่เหมาะสม โดยกรอบที่เรากำหนดไว้ก็ไม่ควรจะแคบจนเกินไป เพราะจะทำให้เราปรับพอร์ตบ่อยเกินไป โดยทั่วไป อาจจะกำหนดไว้ที่ประมาณ 10% ที่เปลี่ยนแปลงไปจากสัดส่วนเป้าหมาย

การ Rebalance Portfolio จะช่วยรักษาเนื้อรักษาตัวในเวลาตลาดผันผวนได้ดี

ในช่วงตลาดขาขึ้น การปรับพอร์ตอาจจะลดผลตอบแทนโดยภาพรวมของเราไปบ้าง แต่ในขาลง การปรับพอร์ตจะช่วยรักษาสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น เงินสด หรือ ตราสารหนี้ ที่จะเปิดโอกาสให้เราได้สามารถซื้อหุ้นในราคาถูกช่วงเกิดวิกฤตได้

อย่าลืมไปวางแผนปรับสมดุลของพอร์ตของตัวเองกัน