เหตุใดก.ล.ต. สหรัฐฯ เริ่มฟ้องร้องสกุลเงินดิจิตัล และนักลงทุนได้รับผลกระทบอย่างไร

เหตุใดก.ล.ต. สหรัฐฯ เริ่มฟ้องร้องสกุลเงินดิจิตัล และนักลงทุนได้รับผลกระทบอย่างไร

ในช่วงที่ผ่านมานี้ สถานการณ์ของเหล่าผู้ลงทุนในสกุลเงินดิจิตัลเรียกได้ว่าไม่สู้ดีนัก เนื่องจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของสหรัฐฯ เริ่มลงดาบฟ้องร้องสกุลเงินดิจิตัลรายใหญ่อย่าง Binance และ Coinbase ในข้อหาต่าง ๆ แม้ว่าก.ล.ต. จะไม่ได้สั่งยุบสกุลเงินดิจิตัล และการฟ้องก็ไม่ได้กระเทือนสกุลเงินทั้งหมด แต่การเริ่มฟ้องร้องบริษัทรายใหญ่ก็ส่งสัญญาณที่ไม่ดีต่อแวดวงคริปโต ในครั้งนี้ ลงทุนศาสตร์ได้สรุปประเด็นสิ่งที่นักลงทุนควรรู้ไว้ 2 ประเด็น ได้แก่ เหตุผลที่ก.ล.ต. สหรัฐอเมริกาฟ้องร้องสกุลเงินดิจิตัล และผลกระทบของการฟ้องร้องต่อนักลงทุน ดังต่อไปนี้ [1, 2, 3, 4]

ทำไมก.ล.ต. สหรัฐอเมริกาเริ่มฟ้องร้องสกุลเงินดิจิตัล

เป็นที่รู้กันดีว่าการเกิดขึ้นของสกุลเงินดิจิตัลเป็นไปเพื่อปลดล็อกกฎเกณฑ์ของระบบทางการเงิน ไม่จำเป็นต้องผ่านตัวกลางอย่างธนาคารหรือรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ก.ล.ต.ของสหรัฐอเมริกายังคงมีความจำเป็นที่ต้องแทรกแซงการดำเนินงานของสกุลเงินคริปโตที่มีผู้ใช้ทั่วโลกและมีเม็ดเงินหมุนเวียนมากกว่าพันล้านในทุกวัน โดยข้อกล่าวหาหลักที่มีต่อทั้ง Binance และ Coinbase คือการที่ทั้งสองบริษัทไม่ได้จดทะเบียนกับก.ล.ต. สหรัฐฯ

Binance และผู้ก่อตั้ง Changpeng Zhao (CZ) โดนกล่าวหารวมทั้งหมด 13 ข้อหา ทั้งการโยกย้ายเงินลูกค้าโดยไม่ชอบ การไม่สามารถจำกัดการใช้ Binance.us สำหรับประชากรของสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะ การจงใจหลีกเลี่ยงกฎหมายของสหรัฐอเมริกา และการใช้ Binance ควบคุมบริษัทในสหรัฐอเมริกาเพื่อฟอกเงิน หลังจาก Binance โดนฟ้อง วันต่อมา Coinbase ก็ถูกก.ล.ต. ของสหรัฐอเมริกาฟ้องโทษฐานที่ดำเนินกิจการสกุลเงินคริปโตซึ่งถือว่าเป็นหลักทรัพย์โดยไม่จดทะเบียนมานานหลายปี

การฟ้องร้องของก.ล.ต.สหรัฐอเมริกาส่งผลกระทบต่อเหล่านักลงทุนอย่างไร

นับจากมีข่าวการฟ้องร้องเกิดขึ้น ตลาดคริปโตก็สั่นสะเทือน เหรียญคริปโตในสกุลต่าง ๆ ได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน ตัวอย่างเช่น เหรียญ Cardano สกุลเงินที่มีค่าเป็นอันดับ 7 ตามการจัดลำดับของ CoinMarketCap มีมูลค่าลดลงร้อยละ 20 หรือเหรียญ Solana ที่มีค่าเป็นอันดับ 9 และเหรียญ Polygon ที่มีค่าเป็นอันดับ 10 ต่างก็มีมูลค่าร่วงตกลงมากถึงร้อยละ 18 ในขณะที่ Binance ซึ่งมีค่าในอันดับ 4 มีมูลค่าลดลงร้อยละ 16

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตลาดคริปโตจะได้รับผลกระทบไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าสกุลเงินดิจิตัลจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ สกุลเงินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอย่าง Bitcoin กับ Ethereum ยังคงรักษามูลค่าไว้ได้ โดยมีมูลค่าลดลงน้อยกว่าร้อยละ 5 ในขณะเดียวกัน ทั้ง Binance และ Coinbase ก็เตรียมการต่อสู้กับข้อกล่าวหาอย่างเต็มที่ นักลงทุนจึงยังมีเวลาทบทวนและประเมินสถานการณ์ต่อไป

การต่อสู้ของ Binance และ Coinbase กับก.ล.ต.ของสหรัฐฯ ครั้งนี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของสกุลเงินคริปโตนับจากนี้ หากก.ล.ต.สหรัฐฯ เป็นฝ่ายชนะ สกุลเงินดิจิตัลที่เคยเป็นอิสระจะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายของสหรัฐอเมริกาทั้งหมด แต่ในทางกลับกัน หาก Binance และ Coinbase เป็นฝ่ายชนะ ก็อาจกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่สำหรับการตัดสินคดีของสกุลเงินคริปโต และอาจนำไปสู่การทำความเข้าใจรูปแบบการดำเนินงานของสกุลเงินดิจิตัล รวมไปถึงการออกกฎหมายให้สอดคล้องกับการดำเนินงานอันเป็นอิสระของคริปโต

ไม่ว่าสุดท้ายแล้ว ผลจะออกมาเป็นอย่างไร เราคงได้แต่จับตาดูกันต่อไปว่าสกุลเงินดิจิตัลจะเติบโตต่อไปได้อย่างไร ในพื้นที่ที่ “ความเป็นอิสระ” ยังคงจำเป็นต้องถูกกำกับด้วยการตรวจสอบทางกฎหมาย