ประวัติศาสตร์ของยาไวอากร้า
เมื่อปี 1998 ทีมนักเคมีของ Pfizer นำทีมโดย Peter Dunn และ Albert Wood พยายามผลิตยาที่ชื่อ sildenafil citrate ซึ่ง ณ ตอนนั้นหวังจะให้เป็นยาที่ใช้ในการรักษาความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และอาการเจ็บหน้าอกที่เนื่องมาจากโรคหลอดเลือดหัวใจ เมื่อเวลานั้น โครงการผลิตยาตัวนี้ถูกผลักให้เป็นโครงการที่มีความสำคัญต่ำ เพราะยิ่งทดลองไปมา ก็ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถใช้การเพื่อรักษาโรคได้อย่างที่หวังไว้เลย
นักวิทยาศาสตร์ในทีมที่ทำงานเพื่อผลิตยาตัวนี้เล่าว่า มันแทบจะถึงจุดจบของโครงการนี้อยู่แล้ว ขนาดว่านัดประชุมยังไม่มีใครมา เพราะทุกคนรู้สึกได้ว่าโครงการนี้กำลังจะพังและหายไป มันคือจุดนั้นเลยทีเดียว เป็นการเสียเงินลงทุนค้นคว้าผลิตยาแต่เปล่าประโยชน์เหมือนเสียเงินไปเททิ้ง ตอนนั้นด้วยแรงกดดันอย่างหนัก ทีมผู้บริหารตั้งกำหนดการว่า หากการผลิตยาตัวนี้ยังไม่สำเร็จ เราจะยกเลิกโครงการนี้ทิ้งเสีย
หลังจากวันนั้น กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ก็ทำการทดลองต่อไป สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ทำวันนั้นคือ ถามคำถามปลายเปิดกับผู้ทดลองใช้ยาว่า “มีอะไรอีกไหม ที่พวกคุณอยากจะรายงาน” เมื่อถามเช่นนั้นแล้ว มีชายผู้หนึ่งยกมือขึ้น และตอบว่า อวัยวะเพศของเขาแข็งตัวมากกว่าปกติ หลังจากนั้น กลุ่มผู้ถูกทดลองก็ยิ้มให้กัน และพูดว่า เขาเหล่านั้นก็เผชิญสิ่งเดียวกัน คือทานยาและอวัยวะเพศเเข็งตัวมากขึ้น
ในปี 1996 บริษัท Pfizer ออกสิทธิบัตรยา sildenafil citrate ในสหรัฐอเมริกา หลังจากนั้นองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ ก็อนุมัติให้สามารถใช้ยาไวอากร้าเพื่อรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของอวัยวะเพศชาย ในเวลาเพียงไม่นาน เภสัชกรได้จ่ายยาไวอากร้าด้วยค่ำสั่งจากแพทย์ไปมากกว่า 40,000 เม็ด
ต่อมาในปี 1998 สำนักข่าว Newsweek เรียกยาไวอากร้าว่า เป็นยาที่ได้รับความนิยมสูงสุดเเทบจะทั่วทุกพื้นที่ในโลก แม้ว่าในขณะนั้น ไวอากร้าจะถูกกฎหมายแค่เพียงในสหรัฐอเมริกา บราซิล โมรอคโค และเม็กซิโก หากแต่ว่าไวอากร้าได้ถูกกระจายไปทั่วโลกในกลไกของตลาดมืด
ต่อมาในปี 2005 หนังเรื่อง Love and Other Drugs ภายใต้การฉายดูแลของ 20th Century Fox Film ก็โด่งดังขึ้น หนังเรื่องดังกล่าว ถูกวิเคราะห์ว่าเป็นหนังเรท R ที่กล่าวถึงการวาดฝันประสบการณ์ทางเพศที่มีความกดขี่และบังคับ เช่นการมีเซ็กส์กับพนักงานต้อนรับ หรือกับหมอ
หลังจากนั้นเรื่อยมาก็มีการพัฒนาของกฎหมาย นำโดยประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่ออนุญาตและควบคุมการใช้งานยาไวอากร้า
เป็นเรื่องที่น่าทึ่งใจ หากชายผู้ร่วมอยู่ในการทดลองไม่กล้ายกมือขึ้นมาเล่าว่าเมื่อทานยาชนิดนี้เข้าไปแล้วทำให้อวัยวะเพศเเข็งตัวเร็วและนานขึ้นแล้วนั้น โครงการนี้อาจกลายเป็นโครงการที่ถูกยกเลิกเพราะไม่ได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ โชคดีที่ในปัจจุบันยานี้ช่วยผู้คนมากมายที่มีปัญหาเรื่องอวัยวะเพศแข็งตัว
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , OFFICIAL LINE และ WEBSITE
พิเศษ! เข้ากลุ่มเรียนหุ้นออนไลน์ฟรีกับลงทุนศาสตร์แบบไม่มีเงื่อนไขได้ที่ : เรียนหุ้นฟรีกับลงทุนศาสตร์
อ้างอิง
Bloomberg.com, The Little Blue Pill: an oral history of Viagra, Retrieved from https://www.bloomberg.com/news/features/2017-12-11/the-little-blue-pill-an-oral-history-of-viagra
CNNHealth, The Little Blue Pill That Could, Retrieved from https://edition.cnn.com/2013/03/27/health/viagra-anniversary-timeline/index.html
Quartz, How Hollywood sexes up the inside story of Viagra Salesman, Retrieved from https://www.fastcompany.com/1702896/how-hollywood-sexes-inside-story-viagra-salesman
อัพเดทล่าสุดเมื่อ :