หุ้นตก แต่ไม่มีเงินสด ทำอย่างไรดี

ในช่วงที่ตลาดหุ้นตกหนัก ๆ สิ่งหนึ่งที่นักลงทุนทุกคนคงอยากทำ คือ ช้อนซื้อหุ้นที่หมายตาไว้ในราคาถูก ๆ แต่แน่นอนว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จับกระแสตลาดได้ หรือมีเงินสดเตรียมพร้อมไว้ตลอดเวลา หุ้นตก แต่ไม่มีเงินสด ทำอย่างไรดี เราจะสามารถทำอย่างไรได้บ้างในสถานการณ์แบบนี้

1) สับเปลี่ยนตัวหุ้นในพอร์ต

วิธีนี้เหมาะสมที่สุด สำหรับสถานการณ์การเจอหุ้นดีราคาถูกมาก แต่ไม่มีเงินสดติดพอร์ต วิธีการ คือ นักลงทุนต้องประเมินมูลค่าหุ้นตัวเดิมที่อยู่ในพอร์ต เปรียบเทียบกับหุ้นตัวที่เราสนใจ โดยเลือกขายหุ้นที่มี upside (มูลค่าพื้นฐาน – ราคา) ต่ำ และเปลี่ยนไปซื้อหุ้นที่มี upside สูง

วิธีนี้ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่ต้องใช้ความรู้ความสามารถในการประเมินมูลค่าหุ้นที่ค่อนข้างแม่นยำด้วยเช่นกัน ในช่วงที่ตลาดผันผวนมาก นักลงทุนควรระวังอิทธิพลจากตลาดเข้ามาครอบงำความคิด นักลงทุนควรเลือกประเมินมูลค่าในช่วงเวลาตลาดปิด โดยอาจจะทำรายการมูลค่าพื้นฐานหุ้นแต่ละตัวไว้ และตั้งเป้าไว้ว่า ถ้า upside หุ้นที่สนใจ ห่างจาก upside หุ้นในพอร์ตเท่าไหร่ เราจึงจะตัดสินใจสับเปลี่ยน

2) ปรับสัดส่วนสินทรัพย์ในพอร์ตการลงทุนใหม่

นักลงทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภท เช่น หุ้น ตราสารหนี้ กองทุนรวม เราสามารถทำ rebalance พอร์ตใหม่ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ได้ ตัวอย่าง ปรกติหากเราตั้งสัดส่วน ตราสารหนี้ : หุ้น อยู่ที่ 50 : 50 ถ้าเรามีเงิน 100,000 บาท เราจะมีตราสารหนี้ 50,000 บาท และหุ้น 50,000 บาท ต่อมาตลาดหุ้นตกหนักจนมูลค่าหุ้นเหลือเพียง 40,000 บาท แบบนี้เราสามารถ rebalance ให้กลับมาเป็น 50 : 50 เท่าเดิม โดยขายตราสารหนี้มา 5,000 บาท เพื่อซื้อหุ้น ให้ทั้งสองสินทรัพย์มี 45,000 บาท เท่ากัน

3) หาเงินสดใหม่มาเติมพอร์ต

ในกรณีที่หุ้นในพอร์ตราคาต่ำกว่ามูลค่ามากจนไม่อยากขาย แต่ก็ไม่มีสินทรัพย์อื่นให้ rebalance พอร์ตได้ การเร่งหาเงินสดก้อนใหม่มาเติมพอร์ตอีกก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดี ถึงแม้ว่าสำหรับหลายคน เงินสดก้อนใหม่จะมีสัดส่วนไม่มากเมื่อเทียบกับขนาดพอร์ตรวม แต่อย่างน้อย การได้เติมเงินก้อนใหม่เข้าไปก็ช่วยทำให้เรารู้สึกดีว่า เรายังได้ประโยชน์จากตลาดหุ้นขาลงอยู่บ้าง

ความจริง เราจะปิดพอร์ตหนีไม่ดูเลยก็พอจะทำได้ หากหุ้นที่เราถือมีความมั่นคงในระยะยาวจริง แต่อย่าลืมว่า เราก็พลาดโอกาสที่จะเปลี่ยนตัวหุ้นไปซื้อหุ้นที่ถูกกว่าได้เช่นกัน

การดูแต่ไม่มีซื้อ กับการไม่ดูและไม่ซื้อ มีความต่างกันในการลงทุนมากทีเดียว