การลงทุน

คราวเคราะห์ของหุ้น FSMART และบุญเติม

FSMART

หุ้น FSMART หรือบริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ถือเป็นผู้ให้บริการตู้เติมเงินที่มีส่วนแบ่งตลาดทั้งในเชิงจำนวนและรายได้สูงที่สุดในประเทศไทย โดยบริษัทใช้แบรนด์คือ “ตู้บุญเติม” หรือที่เราๆ ท่านๆ อาจจะคุ้นเคยกันดีกับภาพตู้สีส้มที่จะตั้งอยู่บริเวณต่างๆ ของชุมชน คอยให้บริการเติมเงินโทรศัพท์มือถือ

 

หุ้น FSMART ถือเป็นหุ้นหลายเด้งอีกตัวในตลาดหุ้นไทย เพราะบริษัทมีการเติบโตของกำไรในระดับน่าประทับใจ

 

ปี 2014 กำไร 153.5 ล้านบาท (เติบโต 62.54% yoy)
ปี 2015 กำไร 271.7 ล้านบาท (เติบโต 77.06% yoy)
ปี 2016 กำไร 420.3 ล้านบาท (เติบโต 54.68% yoy)
ปี 2017 กำไร 542.9 ล้านบาท (เติบโต 29.16% yoy)

 

แต่ช่วงที่ผ่านมา ราคาหุ้นบุญเติมตกลงอย่างรวดเร็วมากกว่า 50% จนทำเอาผู้ถือหุ้นใจสั่นไปตามๆ กัน เหตุผลเป็นเพราะปัจจัยซ้ำเติม 2 อย่างที่เรียกได้ว่าเป็นคราวเคราะห์ของบุญเติมจริงๆ

 

1 กำไรไตรมาส 4 ลดลง

 

จากสถิติเก่า บุญเติมจะมีช่วงที่ทำกำไรสูงสุดอยู่ในไตรมาส 4 ของทุกปี แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในปี 2016 คือกำไรในไตรมาสสี่นั้นลดลงทั้งเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าและเทียบกับปีก่อนหน้า โดยไตรมาสสี่บุญเติมทำกำไรได้ 122.4 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่ 145.1 ล้านบาท และไตรมาสเดียวกันในปีก่อนหน้าที่ 133.2 ล้านบาท

 

เหตุผลที่ผู้บริหารอธิบายก็ถือเป็นสมเหตุสมผลพอสมควร เนื่องจากปีนี้คู่แข่งหลักของบุญเติมเกิดปัญหาภายในบริษัท ทำให้บุญเติมรีบตัดสินใจขยายการวางตู้เติมเงินให้มากขึ้นเพื่อยึดหัวหาดทำเลที่ดีที่สุดของพื้นที่ต่างๆ ไปเสียก่อน ปัญหาที่เกิดขึ้นคือเมื่อรีบวางตู้เติมเงินในอัตราเร่งจะทำให้ค่าเสื่อมที่บริษัทต้องรับรู้จะเพิ่มขึ้นเร็วกว่ารายได้ อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทจึงตกลง แถมมาเจอค่าคอมมิชชันที่เร่งให้ทีมหาจำนวนตู้มาปิดตามเป้าได้อีก กำไรในไตรมาสสี่จึงหดตัวไปพอสมควร

 

2 ธนาคารประกาศฟรีค่าธรรมเนียม

 

หลังจากโดนหมัดแรกไปให้พอมึนแล้ว บุญเติมยังคงเดิมหมัดสองอย่างต่อเนื่องโดยการประกาศฟรีค่าธรรมเนียมการโอนเงินผ่านแอพพลิเคชันของธนาคารชั้นนำต่างๆ ซึ่งบุญเติมเองก็มีสัดส่วนรายได้จากการให้บริการโอนเงินผ่านธนาคารตรงนี้อยู่ด้วยและแน่นอนว่าการให้บริการนั้นมีค่าธรรมเนียม แม้ว่าสัดส่วนรายได้จากการโอนเงินตรงนี้จะอยู่ที่ 11.26% แต่เหตุการณ์ดังกล่าวก็ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้ถือหุ้นอยากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ราคาหุ้นจึงตกลงอีกครั้ง ถึงแม้ว่าบุญเติมก็ให้ข้อมูลว่ากลุ่มลูกค้าที่ทำธุรกรรมผ่านแอพพลิเคชันกับกลุ่มลูกค้าที่ทำธุรกรรมผ่านตู้บุญเติมจะคนละกลุ่มกัน (อ่านเพิ่มเติมเรื่องการฟรีค่าธรรมเนียม : หุ้นธนาคารกับค่าธรรมเนียมที่หายไป)

 

รอบที่แล้ว บุญเติมถือเป็นผู้ได้รับเคราะห์ดีเต็มๆ จากเหตุการณ์ AIS ประกาศยกเลิกการเติมเงินผ่านร้านเซเว่น อีเลฟเว่น จนกำไรบุญเติมก้าวกระโดดจากผู้คนที่หลั่งไหลมาที่ตู้แทนเซเว่น รอบนี้ บุญเติมถือเป็นผู้ได้รับเคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์ยกเลิกค่าธรรมเนียมธนาคารไปอีกรอบ แต่อย่างไรก็ตาม ล่าสุดบริษัทก็ได้ประกาศซื้อหุ้นคืนส่วนหนึ่งแล้วเพื่อเป็นการบรรเทาความร้อนแรงของเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามา

 

หวังว่าบุญเติมจะผ่านเคราะห์ร้ายเหล่านี้ไปได้ด้วยดี

 

ลงทุนศาสตร์ – Investerest

อัพเดทล่าสุดเมื่อ :

เกี่ยวกับผู้เขียน

ลงทุนศาสตร์

ผมเขียนบทความเกี่ยวกับการลงทุนตั้งแต่เบื้องต้น เหมาะสำหรับผู้ลงทุนหรือผู้ที่มีความสนใจที่จะลงทุนที่รักหรือมีทีท่าว่าจะรักในศาสตร์ของการลงทุนเหมือนกัน