การลงทุนซื้องานศิลปะ ทางเลือกการลงทุนที่มาพร้อมกับความชอบ
เมื่อเราต้องการลงทุน เราอาจเริ่มโดยการนึกถึงตัวเลือกลงทุนที่ได้รับความนิยมสูง ไม่ว่าจะเป็นพันธบัตร กองทุนรวม หุ้น ที่ดิน หรือทองคำ แต่ความจริงแล้วการลงทุนในตลาดอื่น ๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน บทความนี้จะมาชวนดูการลงทุนผ่านการซื้องานศิลปะ การลงทุนที่น่าสนใจ โดยมีพื้นฐานความรู้ความเข้าใจในการตัดสินใจลงทุนผ่านความชอบและความเข้าใจตลาดด้วย passion
สำหรับงานศิลปะหลาย ๆ ชิ้น มักจะมีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งเก่าก็ยิ่งราคาสูง ยิ่งหายากก็ยิ่งแพง
โดยรายละเอียดแล้ว ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาการซื้อไปขายมาของงานศิลปะประกอบไปด้วย ชื่อเสียงของศิลปิน เรื่องราวที่มาของงานศิลปะชิ้นนั้น ความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์ที่ศิลปะชิ้นนั้นสื่อ ระยะเวลาที่ศิลปินใช้ได้ในการพัฒนาศิลปะชิ้นนั้นขึ้นมา ความสมบูรณ์ของงาน ยิ่งสำหรับชิ้นที่เก่า ถ้ายิ่งสมบูรณ์ก็ยิ่งแพง ความหายากก็เช่นกัน นอกจากนั้นก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะบอกว่าการซื้อขายงานศิลปะนั้นขึ้นอยู่กับรสนิยมและความชอบส่วนบุคคลด้วย ส่วนปัจจัยสุดท้ายคือความต้องการกระจายความเสี่ยงของผู้ลงทุน
เมื่อพูดถึงผลงานศิลปะในประเทศไทย จะสามารถแบ่งงานออกได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่
- กลุ่มประเพณีไทยเดิม งานศิลปะกลุ่มนี้ได้รับความนิยมมากตลอดมาในประวัติศาสตร์หลายสิบปี ทำให้งานลักษณะนี้ค่อนข้างมีมากในตลาด งานลักษณะนี้มีการหมุนเวียนในการสะสมและลงทุนน้อย
- กลุ่มศิลปะสมัยใหม่ ส่วนใหญ่มักเป็นผลงานของศิลปินที่ไปร่ำเรียนต่อมาจากต่างประเทศแล้วพัฒนาศิลปะที่ต่อยอดด้วยตัวพวกเขาเอง เทคนิคหลักที่ใช้ก็มาจากการเรียนการสอนเรื่องการทำศิลปะจากประเทศตะวันตก แต่ถึงแม้เราจะเรียกมันว่างานศิลปะประเภทงานสมัยใหม่ แต่งานส่วนใหญ่นี้เก่าย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงที่มีการส่งลูกเจ้าขุนมูลนายไปเรียนต่อกลุ่มแรก ๆ แล้ว ทำให้ศิลปินเจ้าของผลงานส่วนใหญ่เสียชีวิตไปแล้ว ชิ้นงานจึงจำกัด ราคาสูง
- กลุ่มศิลปะร่วมสมัย เป็นลักษณะชิ้นงานที่เปิดทางนำศิลปะไทยไปสู่ตลาดงานศิลปะโลก การลงทุนในศิลปะกลุ่มนี้โดยทั่วไปแล้วเหมาะกับชีวิตสมัยใหม่ มีความน่าสนใจ แปลกใหม่แปลกตา และงานของศิลปินคนไทยก็จะมีแนวหรือภาพลักษณ์ที่ชัดเจนเป็นรายบุคคลไป
แล้วหากว่าคุณสนใจลงทุนในงานศิลปะ จะเริ่มอย่างไรได้บ้าง
- เริ่มจากสิ่งที่ชอบ ลักษณะงานที่เห็นแล้วประทับใจ สะสมทั้งในแง่ของการเก็บไว้ด้วยคุณค่าทางใจแล้วค่อยขยายไปสู่การซื้อเพื่อเก็งกำไร แต่พูดได้เลยว่าการลงทุนในงานศิลปะไม่ได้เปลี่ยนเป็นเงินได้ง่ายหรือรวดเร็ว ไม่ใช่สินทรัพย์ที่ซื้อมาขายไปได้กำไรทันที
- หาข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ตามเทรนด์ตลาดงานศิลปะ จับตามองศิลปินที่น่าสนใจ ทำให้เวลาจะตัดสินใจลงทุนมีความรอบคอบมากขึ้น อาจจะดูจากตัวชี้วัดง่าย ๆ เช่นว่า งานศิลปะชิ้นนั้นเคยถูกจัดแสดงที่หอศิลป์หรือพิพิธภัณฑ์ที่ไหนมาก่อนรึเปล่า หรือศิลปินคนที่เราจะซื้องานด้วยเคยได้รับรางวัลหรือเด่นดังหรือไม่
สุดท้ายแล้วจุดแข็งคือความชอบจะพาเราไปสู่จุดที่คลุกคลีกับตลาด ทำให้เรากระตือรือร้นในการหาข้อมูล ทำให้เราลงทุนทั้งในแง่ของเม็ดเงินและความสำคัญทางจิตใจ สำหรับคนที่ชอบศิลปะ หวังว่าบทความชิ้นนี้จะทำให้คุณได้เปิดประตูทำความเข้าใจว่าจะเริ่มลงทุนกับเรื่องที่รักกันอย่างไรได้บ้าง
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , และ WEBSITE
อ้างอิง
Intouch, การลงทุนในงานศิลปะ ทางเลือกแห่งการลงทุนที่ไม่ควรมองข้าม, อ้างอิงจาก https://www.intouchstation.com/readblog/36/
ไทยรัฐออนไลน์, ส่องเทรนด์การลงทุนในศิลปะไทย ทางเลือกใหม่ให้ผลตอบแทนเกินคาด, อ้างอิงจาก https://www.thairath.co.th/lifestyle/money/2483345
Zipmex, ทำไมถึงไม่ควรพลาดการลงทุนในงานศิลปะ, อ้างอิงจาก https://zipmex.com/th/learn/why-should-you-invest-in-art/
อัพเดทล่าสุดเมื่อ :