ตอนนี้ควรลงทุนดีไหม หรือควรหลีกเลี่ยงไปก่อน?

ตอนนี้ควรลงทุนดีไหม หรือควรหลีกเลี่ยงไปก่อน? ถือเป็นคำถามยอดฮิตที่ลงทุนศาสตร์โดนถามบ่อยมาก ทั้งหน้าไมค์ หลังไมค์ ออฟไลน์ ออนไลน์ เรียกได้ว่า โดนถามจนคิดชุดคำตอบออกมาในหัวได้เลย วันนี้จึงถือโอกาสนี้มาเล่าให้ฟังว่า มุมมองของลงทุนศาสตร์ต่อคำถามนี้เป็นอย่างไร

สิ่งที่ผมตอบเสมอ คือ No one knows the future

ไม่มีใครรู้อนาคตได้หรอกว่า ตลาดจะขึ้นหรือจะลง ตลาดหุ้นคือแหล่งรวมเอาความเห็นมวลชนจากคนหลายล้านคนมาประมวลเข้าด้วยกัน ยากจะคาดเดา ยากจะทำนายให้ถูกต้องชัดเจนได้ ดังนั้น การลงทุนด้วยการทำนายว่า อนาคตตลาดขึ้นไหม อนาคตตลาดจะลงไหม เป็นเรื่องที่ทำได้ยากมากในมุมมองของผม

สิ่งที่ผมบอก คือ เราต้องรู้เสมอว่า เราลงทุนด้วยปรัชญาแบบไหน และมีรูปแบบเงื่อนไขวินัยการลงทุนอย่างไรบ้าง

เช่น

หากเป็นนักลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน วิธีคือประเมินมูลค่า ถูกให้ซื้อ แพงให้ขาย

หากเป็นนักลงทุนแนวปัจจัยเทคนิคคอล วิธีคือดูจากอินดิเคเตอร์ กราฟสั่งซื้อให้ซื้อ กราฟสั่งขายให้ขาย

หากเป็นนักลงทุนแนวถัวเฉลี่ย DCA วิธีคือซื้อถัวเฉลี่ยต่อเนื่องไปโดยไม่สนใจตลาด ตราบเท่าที่พื้นฐานยังดี

สังเกตว่า “วินัยการลงทุน” จะเป็นเครื่องปกป้องเราจากความผิดพลาดเอง

นักลงทุนแนวพื้นฐานจะซื้อหุ้นต่ำกว่ามูลค่า ตลาดลงก็ไม่กังวล เพราะราคาที่ซื้อมาสมเหตุสมผล นักลงทุนแนวเทคนิคคอล ถ้าเจอตลาดลงก็ต้องตัดขาดทุน เพราะกราฟสั่งขาย ส่วนนักลงทุนแนวถัวเฉลี่ย หากเจอตลาดขาลงก็ต้องดีใจ เพราะซื้อของได้ในราคาถูกลง

ดังนั้นคำถามสำคัญจึงไม่ใช่ “ตลาดจะขึ้นหรือจะลง” แต่เป็น “หากตลาดขึ้นจะทำอย่างไร” และ “หากตลาดลงจะทำอย่างไร” มากกว่า

ไม่มีนักลงทุนคนไหนรู้อนาคต แต่นักลงทุนที่ดีจะต้องรู้ว่าหากเกิดเหตุปัจจัยอะไรมาเกี่ยวข้องกับการลงทุน เราจะตัดสินใจอย่างไรให้มีแบบแผน ให้มีวินัยตามแผนการที่วางไว้

หลายครั้งคำถามว่า ตอนนี้ควรลงทุนดีไหม เกิดขึ้นเพราะเรายังไม่แตกฉานในแนวคิดการลงทุนที่เราศึกษา ยังประเมินมูลค่าไม่เป็น ยังมองกราฟไม่ออก หรือยังไม่เชื่อมั่นในการถัวเฉลี่ยการลงทุนในระยะยาว

แบบนี้ต้องแก้ด้วยการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม

ถ้ามีความรู้ด้านการลงทุนสูงมากขึ้น เราจะเข้าใจว่าทุกการตัดสินใจมีความเสี่ยง เราจะต้องชั่งผลตอบแทนเทียบความเสี่ยงเสมอก่อนลงทุน

ตอนนี้ควรลงทุนไหม จึงมีคำตอบที่แตกต่างไปตามแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับว่าเขาแสวงหาผลตอบแทนมากแค่ไหน รับความเสี่ยงได้เท่าไหร่ และมีปรัชญาการลงทุนแบบใดมากกว่า

ส่วนใครศึกษาดีแล้วแต่ยังไม่มั่นใจ ก็ลองเริ่มต้นจากการลงทุนน้อย ๆ เป็นการลองสนาม เรียกความมั่นใจไปก่อนก็ได้ เข้าใจมากขึ้นแล้วค่อยเติมเงิน