สรุปข้อมูลบริษัท MAERSK : บริษัทสายเดินเรืออายุร้อยปี

หนึ่งในอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนให้โลกนี้ดำเนินต่อไปได้ ก็คือธุรกิจขนส่ง

ทุกวันนี้ผู้บริโภคต่างก็ใช้บริการของบริษัทขนส่งเจ้าต่าง ๆ เป็นประจำ แต่นอกจากบริษัทขนส่งที่มาส่งสินค้าถึงมือผู้บริโภคแล้ว ยังมีบริษัทขนส่งอีกกลุ่มที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือกลุ่มบริษัทสายเดินเรือ

เพราะสินค้าต่าง ๆ ที่เราสั่ง มีจำนวนไม่น้อยที่ถูกนำข้ามน้ำข้ามทะเล ขนส่งใส่ตู้คอนเทนเนอร์แล้วนำมากระจายสินค้าต่อให้ผู้บริโภค (แต่อาจมีการเอาตู้ไปวางที่ถนนบ้างในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา) ทำให้ธุรกิจสามารถขายสินค้าให้กับลูกค้าได้สะดวกมากขึ้น

และ MAERSK ก็เป็นหนึ่งในบริษัทสายเดินเรือที่ทำธุรกิจนี้มาเป็นเวลากว่าร้อยปี

MAERSK บริษัทขนส่งระดับโลกสัญชาติเดนมาร์ก ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1904 โดยกัปตันเรือ Peter Mærsk Møller พร้อมกับลูกชายของเขา เพื่อให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือโดยเฉพาะ

หลังจากนั้นไม่นาน บริษัทก็ได้ขยายขอบเขตการให้บริการขนส่งที่ไม่ใช่เพียงแต่ในประเทศใกล้เคียงเท่านั้น แต่ในปี 1913 เรือสินค้าของ MAERSK ก็ได้เดินทางไปส่งสินค้าถึงสหรัฐอเมริกา และขยายเส้นทางไปสู่ประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก

พร้อมกันนั้นเอง MAERSK ไม่ได้เพียงแต่ทำธุรกิจขนส่งสินค้าทางเรือเพียงอย่างเดียว แต่ยังให้บริการธุรกิจขนส่งแบบครบวงจร ตั้งแต่การขนส่งทางเรือ บริหารคลังสินค้า ให้เช่าโกดัง ท่าเรือ และอื่น ๆ จนในที่สุด MAERSK ก็กลายเป็นหนึ่งในบริษัทสายเดินเรือที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก

พร้อมกับรายได้ที่สูงกว่าปีละ 38,890 ล้านเหรียญ และมูลค่ากิจการที่สูงเกือบ 40,000 ล้านเหรียญเลยทีเดียว

งบการเงิน

ปี 2018
รายได้ 39,019 ล้านเหรียญ
ค่าใช้จ่าย 35,850 ล้านเหรียญ
กำไรสุทธิ 3,169 ล้านเหรียญ

ปี 2019
รายได้ 38,890 ล้านเหรียญ
ค่าใช้จ่าย 38,974 ล้านเหรียญ
กำไรสุทธิ -84 ล้านเหรียญ

12 เดือนล่าสุด
รายได้ 38,153 ล้านเหรียญ
ค่าใช้จ่าย 36,674 ล้านเหรียญ
กำไรสุทธิ 1,479 ล้านเหรียญ

สำหรับงบการเงินในปี 2019 บริษัทมีผลขาดทุนเนื่องจากการปรับโครงสร้างธุรกิจ ทำให้ต้องมีการปรับปรุงงบการเงินและส่งผลให้งบกำไรสุทธิออกมาติดลบ

แต่ถ้าพิจารณาจาก EBIT หรือกำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษี ในปี 2019 บริษัทมีตัวเลขนี้ที่สูงถึง 1,725 ล้านเหรียญ แปลว่าอย่างน้อย ๆ ธุรกิจตามปกติของบริษัทก็ยังทำกำไรได้อยู่

อย่างไรก็ตาม หากไปดูผลประกอบการก่อนหน้านี้อีก 4-5 ปี จะพบว่า MAERSK ก็มีทั้งปีที่ดีและแย่ แม้ว่าจะเป็นหนึ่งในบริษัทสายเดินเรือที่ใหญ่ที่สุด แต่ก็มีช่วงเวลาที่รายได้ลดลงและผลประกอบการขาดทุนเช่นกัน

เนื่องจากในธุรกิจอุตสาหกรรมสายเดินเรือ เป็นธุรกิจที่มีต้นทุนคงที่สูงมาก (ทั้งค่าเรือ ค่าพนักงาน และอื่น ๆ) แต่เปํนธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจได้ง่าย ถ้าเศรษฐกิจแย่ คนก็ไม่ซื้อของ การขนส่งย่อมไม่เกิดขึ้น

หรืออย่างช่วง COVID-19 ที่ผ่านมา MAERSK และบริษัทอื่น ๆ ที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันต่างก็ได้รับผลกระทบ เพราะการเดินทางทั่วโลกพากันหยุดชะงัก แต่นับว่าโชคยังดีที่ COVID-19 มีสถานการณ์ที่คลี่คลายขึ้นบ้าง จึงทำให้ MAERSK กลับมาดำเนินธุรกิจได้เหมือนเก่า และผลประกอบการก็ค่อย ๆ ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ถ้านับจากจุดต่ำสุดในปีนี้ ราคาหุ้นของ MAERSK ก็ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากว่า 2 เท่าแล้ว แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนไม่น้อยว่าบริษัทจะกลับมาเป็นปกติ

ตราบใดที่ทั่วโลกยังคงค้าขาย ตู้คอนเทนเนอร์ของ MAERSK ก็จะยังคงเดินทางต่อไป และสร้างเงินให้กับบริษัทได้เหมือนที่เคยเป็นกว่าร้อยปี