การลงทุน

DTAC และ Norm Conformity ผิดพลาดเพราะฝูงชน

DTAC

DTAC หรือบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) คือบริษัทผู้ให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคมด้านสัญญาณโทรศัพท์มือถือ 1 ใน 3 ของค่ายมือถือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ หุ้นดีแทค ถือเป็นหุ้นมหาชนอีกตัวหนึ่ง โดยเฉพาะในอดีตขึ้นชื่อเรื่องการเป็นหุ้นปันผลสูงและค่อนข้างมีความแน่นอนของผลกำไร

 

ช่วงที่ผมเข้าตลาดหุ้นใหม่ๆ เป็นช่วงที่เพิ่งมีการเลื่อนการประมูลคลื่น 4G ราคาหุ้นกลุ่มสื่อสารก่อนหน้านั้นขึ้นไปทำจุดสูงสุดกันเป็นว่าเล่นก่อนจะตกลงมาอย่างมากจากข่าวการเลื่อนการประมูลคลื่นออกไป ตอนนั้น ADVANC อยู่แถว 200 บาท INTUCH อยู่แถว 70 บาท และ DTAC อยู่แถว 100 บาท

 

ราคาหุ้นค้างอยู่แถวนั้นนานมากก่อนจะเริ่มดีดตัวขึ้น หุ้น ADVANC กับ INTUCH ขึ้นนำไปรออยู่ก่อนนานแล้ว จำได้ว่า ADVANC ขึ้นไปถึง 250 บาท INTUCH 70 กว่าบาท ในขณะที่DTAC นอนแน่นิ่งไม่ไปไหน

 

ตอนนั้นอยู่ในช่วงเข้าตลาดใหม่ๆ คนรู้จักมาบอกว่าซื้อDTAC เลยๆ อีกไม่นานมันก็ต้องขึ้นตามกลุ่มอยู่แล้ว เพราะเวลามามันต้องมาทั้งกลุ่ม ตอนนั้นเจอเพื่อนกลุ่มนี้ เพื่อนก็ซื้อกันหมด ฟังเพื่อนยุไปยุมาจนทนไม่ไหว เคาะDTAC ไปแถว 100 บาท ทั้งที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไอ้ประมูลคลื่นอะไรนี่มันคือคลื่นอะไรกัน

 

ความผิดพลาดหลักของครั้งนี้คือ Norm Conformity หรือพฤติกรรมแห่ตามฝูงของผมนั่นเอง ถึงแม้ตอนนั้นจะรู้อยู่เต็มอกว่าหุ้นแบบDTAC ไม่ใช่แนวหุ้นที่ตัวเองจะลงทุนเท่าไหร่ แต่ก็ไม่สามารถที่จะใจแข็งพอที่จะเป็นตัวของตัวเองได้

 

ความผิดพลาดมาจากการเชื่อคนรอบข้างมากเกินไปแท้ๆ จำได้ว่าความรู้สึกตอนนั้นที่ซื้อคือ ใครๆ เขาก็ซื้อ ไม่เป็นไรหรอก คิดย้อนกลับไปแล้วก็ตลกตัวเอง การคิดแบบนี้ถือเป็นความผิดพลาดในการลงทุนอย่างใหญ่หลวงมากจริงๆ

 

แน่นอนว่าราคาหุ้นดีแทคสาละวันเตี้ยลงทุกวันตามผลประกอบการที่ไม่น่าประทับใจ ทั้งในแง่รายได้ ผลกำไร และปริมาณผู้ใช้เครือข่ายที่ถูกแย่งไปจำนวนมาก ตอนนั้นพยายามจะมองปันผลว่าช่วยจำกัดดาวน์ไซด์ได้ แต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับว่าปันผลนั้นย่อมมาจากกำไร ถ้ากำไรมีแนวโน้มขรุขระก็ยากที่ปันผลจะดำเนินไปอย่างราบรื่นได้

 

ผมตัดสินใจขายหุ้นออกไปที่ราคา 80 บาท คิดเป็นผลขาดทุนกว่า 20% และตอนนั้นเป็นการขาดทุนหลักแสนครั้งแรกในชีวิต จำได้ว่าตอนนั้นเจ็บปวดมาก แต่คิดย้อนกลับไปตอนนี้ก็ตลกดี ตัวผมในอดีตในตอนนั้นไม่เคยรู้เลยว่าอนาคตที่จะมาถึงมีการขาดทุนที่ใหญ่โตกว่าครั้งนั้นอีกมากมาย

 

ขีดเส้นใต้ว่าบทความนี้เขียนขึ้นเพื่อบอกเล่าประสบการณ์ความผิดพลาดในการลงทุนเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาตัดสินว่าหุ้นหรือบริษัทดีหรือไม่ดี การลงทุนของแต่ละคนแต่ละครั้งขึ้นอยู่กับบริบทแวดล้อมขณะนั้นมาก ต่างกรรมต่างวาระ ผลลัพธ์ก็แตกต่างออกไปมาก

 

ลงทุนศาสตร์ – Investerest

ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , OFFICIAL LINE และ WEBSITE

 

พิเศษ! เข้ากลุ่มเรียนหุ้นออนไลน์ฟรีกับลงทุนศาสตร์แบบไม่มีเงื่อนไขได้ที่ : เรียนหุ้นฟรีกับลงทุนศาสตร์

อัพเดทล่าสุดเมื่อ :

เกี่ยวกับผู้เขียน

ลงทุนศาสตร์

ผมเขียนบทความเกี่ยวกับการลงทุนตั้งแต่เบื้องต้น เหมาะสำหรับผู้ลงทุนหรือผู้ที่มีความสนใจที่จะลงทุนที่รักหรือมีทีท่าว่าจะรักในศาสตร์ของการลงทุนเหมือนกัน