กระแส Metaverse กำลังเริ่มซา | ลงทุนศาสตร์ Investerest.co

กระแส Metaverse กำลังเริ่มซา

Metaverse ฟังดูเป็นเรื่องล้ำสมัยของเทคโนโลยี คำว่า Metaverse น่าสนใจจนขนาดคนที่ไม่ใช่คอไอทียังต้องหันมาทำความรู้จัก ก่อนที่เราจะไปทำความเข้าใจกระแสต่าง ๆ เกี่ยวกับ Metaverse หรือเรียนรู้ว่ามันส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจการลงทุนอย่างไร คงต้องกลับไปคุยกันง่าย ๆ ที่จุดเริ่มต้นกันก่อนเพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน

ว่าแต่ Metaverse คืออะไร ?

คำว่า Metaverse มาจากการผสมผสานกันระหว่างคำว่า Meta และ Universe โดยคำว่า Metaverse นั้นหมายถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยสร้างโลกเสมือนจริง ที่เดินหน้าก้าวไกลไปกว่าลักษณะของเว็บไซต์ที่เราใช้กันอยู่ทั่วไปในปัจจุบัน หรือที่เรียกว่า Web 2.0

หากจะให้พูดถึงลักษณะเว็บไซต์ไล่เรียงจากอดีตมาถึงปัจจุบันและคาดเดาไปถึงอนาคต เทคโนโลยีเว็บไซต์ถูกแบ่งออกเป็น 3 ระดับ

Web 1.0 โดยมีลักษณะที่ผู้ใช้งานเสพคอนเทนต์จากผู้ให้บริการอย่างเดียว เช่น Google และ Yahoo
Web 2.0 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เราใช้ในปัจจุบัน มีลักษณะที่ ผู้ใช้งานกลายเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ และทำเงินจากคอนเทนต์นั้นได้บางส่วน แต่ผู้ให้บริการยังมีสิทธิควบคุมคอนเทนต์ เช่น Facebook, YouTube
Web 3.0 ที่รองรับ Metaverse มีลักษณะที่ผู้ใช้งานทำได้ทั้งผลิตและทำเงิน มีสิทธิควบคุมคอนเทนต์อย่างสมบูรณ์ ทำงานบนระบบบล็อกเชน ควบคู่กับ AI Web 3.0 จึงเป็นรากฐานสำคัญที่จะทำให้โลกเสมือน metaverse เป็นจริงได้ ข้อมูลและเทคโนโลยีจาก Web 3.0 จะเกี่ยวข้องกับการสร้างกิจกรรมที่จะมีใน Metaverse และมีส่วนช่วยสร้างระบบนิเวศของโลกเสมือนให้เชื่อมต่อกันอย่างลื่นไหล

พูดง่าย ๆ Metaverse คือการสร้างสิ่งต่าง ๆ บนอินเทอร์เน็ตด้วยเทคโนโลยีเพื่อความเสมือนจริง ไม่ว่าจะเป็นการรับรู้แบบสามมิติ การสร้างสภาพแวดล้อมที่ทำให้เกิดประสบการณ์อย่างเหมือนจริง แม้จะถูกจำลองขึ้นมาก็ตาม

ในปีที่ผ่านมา Metaverse มีบทบาทสำคัญอย่างมากที่ทำให้ราคาคริปโตเคอเรนซีหลาย ๆ สกุล และราคาที่ดินเสมือนจริงหลายแพลตฟอร์มปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

ข้อมูลจาก WeMeta เผยว่า ‘The Sandbox และ Decentraland’ โลก Metaverse ที่สร้างขึ้นบนระบบบล็อกเชนเบอร์ต้นของโลกอย่าง อีเธอเรียม บล็อกเชน ประสบปัญหาราคาที่ดินตกต่ำ หลังผ่านจุดพีคมาเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น

เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ราคาที่ดินเฉลี่ยของ Decentraland เคยขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 37,238 ดอลลาร์ (ราว 1.32 ล้านบาท) ในเดือนกุมภาพันธ์ มาในเดือนสิงหาคม ราคาเฉลี่ยกลับร่วงลงมาเหลือเพียง 5,163 ดอลลาร์ (1.83 แสนบาท) คิดเป็น 86.14%

นอกจากนั้น ข้อมูลจากบริษัท McKinsey ประเมินว่าปี 2573 มูลค่าตลาด Metaverse จะเติบโตสู่ระดับ 5 ล้านล้านดอลลาร์ จากที่เคยคาดการณ์กันไว้ว่ามูลค่าโลกเสมือนจะโตขึ้นที่ 8-13 ล้านล้านดอลลาร์

Metaverse ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเศรษฐกิจโลกที่ทำให้ผู้คนอยากลงทุนกับสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ปรากฎการณ์ฟองสบู่แตกจึงเกิดขึ้น ความนิยมลดลง ตลาดคริปโตฯ ถดถอย และที่ดินบนโลกเสมือนไม่ได้รับความนิยม

ตอนกระแสมาแรงทุกคนก็หันไปให้ความสนใจและลงทุนกับสิ่งที่ประเมินแล้วน่าจะให้กำไรได้ดี เห็นผลไว แม้จะเสี่ยงหน่อย แต่ด้วยเศรษฐกิจโลกที่ไม่เอื้อ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในหลายพื้นที่สร้างปัญหาต่อเศรษฐกิจ วิกฤตการณ์อาหาร และปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้ผู้คนไม่พร้อมเอาเงินในกระเป๋าไปเสี่ยงอีกแล้ว เหล่านี้ส่งผลกระทบต่อ Metaverse โดยตรง เมื่อพิจารณาปัจจัยทางเศรษฐกิจการเมืองแล้ว เทรนด์ Metaverse ที่ลดลงนั้น ไม่ใช่สิ่งที่น่าประหลาดใจแต่อย่างใด