อย่ากลัวที่จะใช้ชีวิตให้เป็นของตัวเอง คำแนะนำสำคัญจากวอร์เรน บัฟเฟตต์

อย่ากลัวที่จะใช้ชีวิตให้เป็นของตัวเอง คำแนะนำสำคัญจากวอร์เรน บัฟเฟตต์

สถานการณ์ในปีค.ศ.2022 นี้ ภาวะเงินเฟ้อ พิษเศรษฐกิจและผลกระทบจากสงคราม รวมถึงการรับมือกับโรคระบาดทำให้บรรยากาศการลงทุนซบเซา [1] นักลงทุนอาจเกิดความลังเลและไม่แน่ใจว่าควรลงทุนต่อไปดีหรือไม่ และอาจเริ่มสับสนในทางเลือกต่าง ๆ ในชีวิตของตนเอง

ในครั้งนี้ ลงทุนศาสตร์ได้สรุปคำแนะนำของวอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยเป็นอันดับ 7 ของโลกด้วยความมั่งคั่งสุทธิ 104.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ [2] เพื่อเป็นแนวทางให้นักลงทุนทั้งหลายได้ลองทบทวนด้านการเลือกใช้ชีวิต รวมถึงการลงทุนอีกครั้ง ดังนี้ [3]

ในบรรดาคำแนะนำที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ ได้มอบให้แก่นักลงทุนที่ผ่านมา สิ่งที่เขาพยายามเน้นย้ำมากที่สุดก็คือการลงทุนในตัวเอง ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจไม่ดี ค่าเงินจะตกหรือหุ้นจะร่วงต่ำอย่างไรก็ตาม คุณค่าที่ไม่เคยหายไปคือคุณค่าในตัวเอง ดังนั้น การใช้ชีวิตตามทางที่เลือกเองจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ไม่ว่านักลงทุนคนใดจะมีความชอบแบบไหน การรู้จักตัวเอง และเลือกทำในสิ่งที่รักจะนำพาให้เกิดการพัฒนาตัวเองเพิ่มขึ้น กลับกัน ผู้ที่ใช้ชีวิตเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น ปล่อยชีวิตให้ไหลไปกับความเป็นไปโดยไม่มีทิศทางแน่ชัด ก็ได้แต่ปิดขังโอกาสในการใช้ชีวิตให้เป็นของตัวเองไว้ในความกลัว

แม้ความกลัวจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากสำหรับนักลงทุน ผู้คนต้องตัดสินใจอย่างรอบคอบ และคอยระวังข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นอยู่เสมอ แต่สำหรับวอร์เรน บัฟเฟตต์แล้ว เขาไม่เคยกลัวที่จะลงทุน เพราะสิ่งที่น่าเสียใจที่สุด ไม่ใช่การลงทุนที่ขาดทุน แต่เป็นการเสียโอกาสได้กำไร เพราะความกลัวจนไม่กล้าลงทุน

แม้ในชีวิตจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้น ดังที่ใคร ๆ ก็ต่างรู้ดีว่าเขาพลาดที่จะซื้อหุ้นของไมโครซอฟท์ แต่ความผิดพลาดนั้นก็ไม่ได้กลายเป็นคำสาปให้เขาต้องคอยกลัวความผิดพลาดตลอดไป เขายังคอยมองหาโอกาสอื่นที่เป็นไปได้ และเลือกลงทุนต่อไปกับสิ่งอื่น

อีกสิ่งที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ คิดว่าสำคัญอย่างยิ่งต่อนักลงทุน คือการมีเพื่อนคู่คิดที่ดี ตัวเขาเองมี ชาร์ลี มังเกอร์ นักลงทุนที่ได้ให้คำแนะนำอันเป็นประโยชน์แก่เขาเสมอมา การมีเพื่อนที่ดีช่วยให้นักลงทุนพัฒนาตัวเองไปในทิศทางที่ต้องการได้ หากต้องการมีชีวิตเช่นไร พัฒนาต่อยอดไปในทางไหน ก็ควรพาตัวเองไปอยู่ในสังคมเพื่อทำความรู้จักกับผู้คนที่อยู่ในแวดวงนั้น

นอกจากนี้ การรู้ว่าตัวเอง รู้ และ ไม่รู้ สิ่งใด ก็เป็นสิ่งสำคัญ นักลงทุนควรต้องศึกษาข้อมูลบริษัทที่ตนเองสนใจ รอบรู้ข่าวสารและบริบททางเศรษฐกิจ แต่ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่านักลงทุนจะต้องรู้ข่าวสารไปหมดเสียทุกอย่าง นักลงทุนควรรู้ตัวว่าตนเองจำเป็นต้องรู้สิ่งใด ข้อมูลใดที่ไม่สำคัญ หรืออยู่นอกเหนือความสนใจ นักลงทุนก็อาจสอบถามข้อมูลจากเพื่อนหรือผู้เชี่ยวชาญที่ไว้ใจได้

สำหรับวอร์เรน บัฟเฟตต์แล้ว การใช้ชีวิตให้เป็นของตัวเอง ก็คือการมอบหมายเรื่องราวที่ตัวเองต้องการเขียนมันขึ้นมาด้วยตัวเอง แต่ละคนมีเรื่องราว มีเส้นทางที่สนใจแตกต่างกัน หากถามใครอีกคนว่าสนใจเรื่องใด ใครคนนั้นก็อาจมีเรื่องราวที่ตนเองเชี่ยวชาญและเล่าได้ไม่รู้จบ ตัวเขาเองก็เป็นเช่นนั้น ตลอดชีวิตที่ผ่านมา เขาได้เลือกทำความเข้าใจ ศึกษาเรื่องราวที่ตัวเองต้องการรู้ และเขียนคู่มือชีวิตเป็นของตัวเอง มีแนวทางลงทุนเป็นของตัวเองโดยไม่ต้องใส่ใจว่าข่าวในวอลสตรีทกำลังบอกเล่าสิ่งใด

การใช้ชีวิตตามทางที่เลือกเองอาจทำได้ไม่ง่ายนัก แน่นอนว่าการทำตามใจตัวเองได้ต้องผ่านอุปสรรคอีกมากมาย แต่ไม่ว่าอย่างไร วอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็ยังแนะนำให้ผู้คนเลือกลงทุนกับตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก อย่ากลัวที่จะตั้งเป้าหมายและใช้ชีวิตตามที่ตัวเองต้องการ เพราะเวลานั้นผ่านไปเร็วเสมอ ยิ่งขังตัวเองไว้ในความกลัวมากเท่าไหร่ โอกาสในชีวิตทุกวันที่หายไปก็น่าเสียดายมากขึ้นเท่านั้น