JAS หรือบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) คือ ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ทบรอดแบรนด์ที่ครองส่วนแบ่งตลาดอันดับต้นในประเทศไทย ในชื่อ 3BB หรือ ทรีบรอดแบรนด์
ธุรกิจของจัสมิน ถือว่าเกาะกระแสไปกับการเติบโตของยุคเทคโนโลยีได้ดีมาก บริษัทมีการเติบโตที่ต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมองในมุมอัตราส่วนการเข้าถึงอินเตอร์เน็ทบรอดแบรนด์ของประชากร ที่ประเทศไทยยังมีอัตราส่วนนี้น้อยกว่าประเทศที่พัฒนาแล้วค่อนข้างมาก
ตอนที่ผมซื้อหุ้นจัสมิน ยังเป็นช่วงที่ผมเพิ่งเข้าตลาดใหม่ ๆ จำได้ว่าหุ้นจัสมิน เป็นการคัทลอสแรกในชีวิตของผม น่าจะไม่เกิน 3 เดือนแรกของการลงทุนเลยก็ว่าได้
ช่วงที่ผมเข้าตลาดตอนนั้น หุ้นจัสมิน มีราคาตกต่ำลงอย่างมาก จากปัญหาการฟ้องร้องที่ยืดเยื้อและยาวนาน ราคาหุ้นถูกกดดันมาจากปัญหาดังกล่าวมาโดยตลอด ผมตัดสินใจเข้าซื้อหุ้น JAS ทันที่ที่บริษัทประกาศว่าชนะคดีการฟ้องร้องแล้ว เข้าเคาะ ATO ไปในช่วงบ่ายทันทีที่ข่าวออกในช่วงเที่ยง หากจำไม่ผิดจะซื้อไปที่ราคาแถว 7 บาทได้
ทุกคนที่อ่านจนถึงบรรทัดนี้ คงรู้สึกถึงความผิดพลาดของผมในการลงทุนในหุ้นจัสมิน ได้เป็นแน่แท้ ปัญหาคือผมมี Overconfidence Bias หรือ อคติความมั่นใจในตัวเองที่สูงเกินไป
ผมตัดสินใจซื้อเมื่อรู้เพียงแค่ว่าบริษัทชนะคดี โดยที่ยังไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าบริษัทจะได้รับประโยชน์แค่ไหน การชนะคดีมีผลต่อมูลค่าหุ้นอย่างไร หรือแม้กระทั่งคดีดังกล่าวสามารถอุทธรณ์ต่อไปได้อีกหรือเปล่า
ราคาหุ้นวิ่งขึ้นเปิดโดดที่ ATO ตรง 7 บาทกว่า ก่อนจะตกลงภายในเวลาไม่นานมาอยู่แถว 6 บาทประมาณราคาในช่วงเช้า ผมตัดสินใจคัทลอสไปในที่สุด เพราะรู้ตัวว่าตัวเองไม่ได้เข้าใจอะไรกับบริษัทเลย และนี่เป็นการเก็งกำไรจากข่าวดีนี้ล้วน ๆ เมื่อราคาหุ้นไม่เห็นด้วยกับผม ผมก็ยอมมอบตัว
ทุกคนที่อยู่ในตลาดมาพักใหญ่คงรู้สรรพคุณหุ้นนี้กันดีว่า จัสมินเป็นหุ้นที่มีความผันผวนสูงมาก สูงระดับที่ใครจะเข้าไปเล่นก็อาจจะเรียกว่าเล่นกับไฟก็คงจะไม่ผิดนัก แต่ด้วยความมั่นใจเกินเหตุของผม ก็ทำเอาผมถูกไฟลวกไปในที่สุด
เขียนบทความนี้ไปก็ตลกไป ตอนเข้าตลาดหุ้นใหม่ ๆ ผมทำอะไรไร้ตรรกะ และไม่มีสาระมาก ซื้อหุ้นด้วยสัญชาตญาณที่มั่วซั่ว และไร้เหตุผล คิดย้อนกลับไปแล้วก็ขำ เวลาใครพูดว่าคนเล่นหุ้นมีคนที่เขาซื้อมั่ว ๆ ซื้อไม่คิดด้วยเหรอ ผมจะตอบว่ามีสิ อย่างน้อยตัวผมเองตอนเข้าตลาดก็เป็นหนึ่งในนั้น (ฮา)
ขีดเส้นใต้ว่าบทความนี้เขียนขึ้นเพื่อบอกเล่าประสบการณ์ความผิดพลาดในการลงทุนเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาตัดสินว่าหุ้นหรือบริษัทดีหรือไม่ดี การลงทุนของแต่ละคนแต่ละครั้งขึ้นอยู่กับบริบทแวดล้อมขณะนั้นมาก ต่างกรรมต่างวาระ ผลลัพธ์ก็แตกต่างออกไปมาก
ลงทุนศาสตร์ – Investerest
ติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , OFFICIAL LINE และ WEBSITE
พิเศษ! เข้ากลุ่มเรียนหุ้นออนไลน์ฟรีกับลงทุนศาสตร์แบบไม่มีเงื่อนไขได้ที่ : เรียนหุ้นฟรีกับลงทุนศาสตร์
อัพเดทล่าสุดเมื่อ :