ทำไม DDD และ SNAILWHITE ถึงขาดทุน? | ลงทุนศาสตร์ Investerest.co

DDD หรือบริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) คือหุ้นในตำนานอีกหนึ่งตัวของปี 2017 โดยบริษัทประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลและบำรุงผิวภายใต้เครื่องหมายการค้า NAMU LIFE โดยมีชื่อกลุ่มผลิตภัณฑ์ว่า SNAILWHITE และธุรกิจรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์บำรุงผิวภายใต้เครื่องหมายการค้าอื่น (OEM)

หุ้น DDD ถือเป็นหุ้นในตำนานอีกตัวหนึ่ง จากจุดสูงสุดที่ราคา 121 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นขนาดกิจการ 38,464 ล้านบาท มาทำจุดต่ำสุดที่ 28 บาท หรือคิดเป็นขนาดกิจการ 8,900 ล้านบาท เรียกได้ว่าจากวันนั้นจนวันนี้ DDD ผ่านอะไรมามากมายเหลือเกิน

แล้วผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2561 ของ DDD ก็ออกมาเซอร์ไพรส์นักลงทุนและตลาดด้วยการพลิกมาขาดทุนที่ 6.7 แสนบาท จากที่เคยมีกำไรกว่า 44 ล้านในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

เกิดอะไรขึ้นกับ SNAILWHITE ทำไม DDD ถึงขาดทุน? เหตุผลหลักๆ มีอยู่ประมาณนี้

1 รายได้ปรับลดลงค่อนข้างมาก

จากรายได้ 385.82 ล้านบาทในช่วงไตรมาส 3 ปีที่แล้ว ลดลงเหลือ 260.99 ล้านบาทในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ หรือคิดเป็นการหดตัวทั้งสิ้น 32.35% มาจากการลดลงของรายได้ในประเทศ 12.52% และการลดลงของรายได้ในต่างประเทศ 71.36% ซึ่งประเด็นสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อ DDD ค่อนข้างชัดเจน โดยตลาดภายในประเทศได้รับผลจากการปราบปรามเครื่องสำอางและอาหารเสริมผิดกฎหมาย ส่วนตลาดต่างประเทศได้รับผลจากการขอขึ้นทะเบียนเครื่องสำอางจากสำนักงานอาหารและยาของจีน ที่ยังต้องปรับแก้ฉลากตามกำหนด

2 ค่าใช้จ่ายลดลงได้ไม่มาก

ในขณะที่รายได้ลดลง 32.35% แต่ต้นทุนขายลดลงได้เพียง 19.67% เหตุผลหลักก็มาจากเงินเดือนและค่าจ้างที่ลดลงได้ไม่เท่ายอดขาย รวมไปถึงค่าใช้จ่ายการโฆษณาและส่งเสริมการขายที่เป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ร่วมหลักร้อยล้าน สามารถลดลงได้ 27.34% ซึ่งต่ำกว่าการลดลงของยอดขายเช่นกัน ส่งผลให้เมื่อหักลบกันแล้ว อัตรากำไรสุทธิจึงลดต่ำลง นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายพนักงานสำนักงานที่เพิ่มขึ้น 25.36% เพื่อรองรับเป้าหมายการเติบโตอีกด้วย

สรุปคือ วางแผนจะโต แต่ยอดขายไม่มา กำไรเลยหดหาย

การวางแผนจะโตของ DDD นำมาซึ่งการเตรียมระบบหลังบ้านและการโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น แต่ด้วยสภาพตลาดเครื่องสำอางที่ตอนนี้โดนปัจจัยรุมเร้าหลายอย่าง ทั้งอารมณ์ตลาดไม่ดีตั้งแต่การปราบปรามเครื่องสำอางและอาหารเสริมผิดกฎหมาย ปัญหาเรื่องการลดลงของนักท่องเที่ยวจีน ปัญหาความล่าช้าในการขึ้นทะเบียนเครื่องสำอางที่ประเทศจีน รวมไปถึงตลาดของ FMCG เองในประเทศไทยก็ไม่ค่อยดีอีกด้วย

ติดตามกันต่อไปว่า DDD จะเดินหมากแก้เกมอย่างไรในครั้งนี้